ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ผู้ปกครอง 5 ครอบครัวเดินจากจ.อุดรธานี พาลูกชายอีก 5 คน อายุระหว่าง 10-13 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ลูกชายทั้ง 5 คน ถูกโค้ชฟุตบอล อายุ 43 ปี (เกษตรอำเภอ ข้าราชการซี7) และอดีตนายทหารยศพันตรี อายุ 64 ปี ผู้สนับสนุนทีมฟุตบอล ที่ถูกตำรวจ ปคม. จับกุมดำเนินคดีฐาน ร่วมข่มขืนกระทำชำเราเด็ก และข้อหาอื่นๆ รวม 6 ข้อหา เพื่อขอให้นางปวีณา พาเข้าแจ้งความกับตำรวจ ปคม. ให้ดำเนินคดีถึงที่สุด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นางปวีณาได้ช่วยเหลือเด็กชาย 2 คน อายุ 10 ขวบเท่ากัน ที่ถูกโค้ชและผู้สนับสนุนทีมข่มขืนกระทำชำเรา และประสานตำรวจ ปคม.จนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดทั้ง 2 คนมาดำเนินคดีได้ 

นางแหม่ม (นามสมมุติ) แม่ของเด็กชายเอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี 1 ใน 5 เหยื่อที่เข้าร้องทุกข์ กล่าวว่า หลังรู้ข่าวมีเด็กๆ ในทีมฟุตบอลถูกโค้ชและผู้สนันสนุนข่มขืนกระทำชำเรา จึงได้สอบถามลูกและทราบว่าลูกถูกกระทำตั้งแต่ป.5 เมื่อปี 64 และถูกกระทำเรื่อยมาร่วม 3 ปี แม้จะย้ายไปเรียนชั้นม.1 ที่โรงเรียนอื่นแล้วก็ตามแต่ก็ยังอยู่ในทีมฟุตบอล และไปอยู่บ้านครูเป็นประจำ ขณะที่เพื่อนๆ ร่วมทีมอีก 4 คนที่เดินทางมาด้วยกันวันนี้ก็ถูกกระทำร่วมกัน ที่ผ่านมาแม่ไม่เคยรู้ว่าลูกต้องทุกข์ทรมานมาก่อน แต่ด้วยความที่เขารักการเตะฟุตบอลจึงไม่กล้าบอกใครเพราะถูกข่มขู่ไว้ว่าจะไล่ออกจากทีม “ทีแรกแม่ๆ ทั้ง 5 คนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดีเพราะเกรงกลัวอิทธิพลไม่กล้าแจ้งความ เนื่องจากรู้ว่าโค้ชและผู้สนันสนุนทีมรู้จักคนใหญ่คนโตเยอะ แต่เมื่อเห็นนางปวีณา และตำรวจ ปคม. ช่วยเหลือจับกุมทั้ง 2 คนแล้ว จึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณาฯ”   

ยายของเด็กชาย 10 ขวบ ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ตอนนี้ทางผู้ปกครองทุกคนไม่สบายใจ เพราะโค้ชฟุตบอลได้รับการประกันตัวออกมาอยู่ที่บ้านพักซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน วันแรกที่โค้ชออกมาก็ส่งข้อความมาหาน้าของเด็กบอกว่า “อยากให้ทุกคนและเด็กๆ ไปร่วมงานผูกข้อไม้ข้อมือเพื่อรับขวัญโค้ชที่บ้าน ข่าวที่ออกไปไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด คิดถึงทุกคน รักทุกคนเสมอ” แต่ยายก็ไม่ได้ไปร่วมงานและไม่เชื่อที่โค้ชพูด เพราะสิ่งที่รู้ว่าหลานถูกกระทำมากกว่าที่เป็นข่าวเสียอีก นอกจากนี้ที่บ้านโค้ชก็มีการร้องคาราโอเกะกันเสียงดังแทบทุกคืนยันเช้าส่งเสียงรบกวนชาวบ้านไม่มีความเกรงใจ 

คุณแม่เด็กชาย 10 ขวบ ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า มารู้เรื่องเพราะลูกผูกเฟซบุ๊กกับแม่ แม่มาเจอคลิปที่ลูกส่งให้กับโค้ชและผู้สนันสนุนในแมสเซ็นเจอร์ เพราะผู้สนันสนุนบังคับให้ลูกถ่ายคลิปขณะสำเร็จความใคร่ตัวเองส่งไปให้ดูหลายครั้ง และผู้สนันสนุนก็โอนเงินให้ลูกครั้งละ 20-30 บาท นอกจากนี้ลูกยังถูกข่มขืนกระทำชำเราร่วมกับเด็กคนอื่นๆ และบังคับให้เด็กๆ กลืนน้ำอสุจิอีกด้วย อ้างว่าเด็กๆ จะได้แข็งแรงและตัวสูง โดยถูกกระทำมาตลอด 2 ปี

หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. พ.ต.อ.กรีธา ตัณคณารัตน์ รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม. เพื่อเตรียมพาทั้ง 5 ครอบครัว เข้าแจ้งความเพิ่มเติมและให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนางปวีณา ได้ประสาน ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เพื่อร่วมประชุมหาแนวทางช่วยเหลือและป้องกันเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียน  นางปวีณา กล่าวว่า หลังตำรวจ ปคม. ได้จับกุมผู้กระทำผิดทั้ง 2 ราย นางปวีณา ได้พาพ่อแม่เด็กไปติดต่อขอรับเงินเยียวยา โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม มอบหมายให้ นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม เป็นตัวแทน พร้อมด้วย นายสุรไกร นวลศิริ หัวหน้าสำนักงาน รมว.ยุติธรรม นางสาวจิฬาภรณ์ ตามชู กฤษณสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลย นายปริญญ์วัฒน์ เปี่ยมปิ่นวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการร่วม รับเรื่องและประชุมร่วมกันหาแนวทางช่วยเหลือผู้เสียหายทางคดี

โดยทางกระทรวงยุติธรรมได้เล็งเห็นความทุกข์ร้อนของผู้เสียหายทุกคนและเร่งนำเรื่องเข้าที่ประชุมพิจารณาเงินช่วยเหลือช่วยยาให้อย่างเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษ โดยใช้เวลา 5 วัน วันนี้ นางสาวจิฬาภรณ์ ตามชู กฤษณสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลย รายงานมาว่า ทางกรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรม อนุมัติเงินเยียวยาให้กับ 2 เด็กชาย 10 ขวบแล้ว คนละ 5 หมื่นบาท ในส่วนเด็กชายอีก 5 คน ที่เดินทางมาวันนี้มูลนิธิปวีณาฯ จะให้การช่วยเหลือเด็กและครอบครัวดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดให้ถึงที่สุดและจะประสานให้ได้รับเงินเยียวยาผู้เสียหายด้วยเช่นกัน

ภาพ-ข่าว THAIREFERENCE