ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีแม่ค้าร้องศูนย์ดำรงธรรม เพื่อขอความเป็นธรรมหลังถูกเพิกถอนสิทธิ์ไม่ได้ขาย แฟรนไชส์  “ลูกชิ้นปิ้ง  น้ำจิ้มผีบอก” ที่ตลาดประชารัฐคนไทยยิ้มได้ ริมทะเลอ่าวประจวบคีรีขันธ์​ หรือ ถนนคนเดินริมอ่าวประจวบ  บริเวณตลาดเต็นท์สีชมพู ที่อยู่ในการดูแลของสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

โดยในวันนี้ ศูนย์ดำรงธรรม ได้นัดหมาย ผู้ร้องมารับฟังข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ที่ห้องประชุมชั้น  3  ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมี นายดำรงค์  มากระจัน (อ่านว่า  มา-กระ-จัน)  พัฒนาการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  เป็นประธานการชี้แจง โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นางแสงประทีป  คุณาธิมาภรณ์  ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงค์ธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผู้แทนนายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้แทนนายกเทศมนตรีเมืองประจวบคีรีขันธ์ คณะกรรมการตลาดประชารัฐคนไทยยิ้มได้ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และแม่ค้าซึ่งเป็นผู้ร้อง เข้าร่วมรับฟังข้อมูล ขณะเดียวกันที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัด มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าตลาดเต็นท์สีชมพู กว่า 20คนมาถือป้ายแสดงความคิดเห็น โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความสงบเรียบร้อย

สำหรับข้อสรุประหว่างคณะกรรมการตลาดประชารัฐคนไทยยิ้มได้  กับ นางน้ำค้าง  ทรัพย์ศรี  อายุ  34  ปี  แม่ค้าลูกชิ้นน้ำจิ้มผีบอก โดยมี น.ส.ธนญา  สุขธนะประเสริญ  อายุ  35 ปี เจ้าของแฟรนไชส์ “ลูกชิ้นปิ้ง  น้ำจิ้มผีบอก” ซึ่งได้ยื่นหนังสือร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  และมีการติดตามความคืบหน้า ไปเมื่อวันที่ 18  ธันวาคมที่ผ่านมา โดยได้นัดคู่กรณีทั้งหมดมารับฟังข้อสรุป ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 21  ธันวาคม  น.ส.ธนญา  ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนกับ  นายชาดา  ไทยเศรษฐ์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย 

โดยวันนี้ที่ประชุมใช้เวลา นานกว่าสองชั่วโมง แต่ไม่สามารถหาข้อยุติได้   ซึ่งกรรมการตลาดประชารัฐคนไทยยิ้มได้ยืนยันตามข้อสรุปเดิมของคณะกรรมการทั้ง  9  คน ที่เพิกถอนสิทธิ์ นางน้ำค้าง  ทรัพย์ศรี  ซึ่งเคยเป็นแม่ค้าหลักในบูทขายเดิม ภายในตลาดเต็นท์ชมพู เนื่องจากทำผิดกฎระเบียบของตลาดในหลายข้อ และเคยมีการผ่อนผันมาก่อนหน้านี้แล้ว

นายดำรงค์  มากระจันทร์  พัฒนาการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  กล่าวว่า  ที่ประชุมได้ยื่นข้อเสนอเพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน ให้กับคุณน้ำค้าง  ซึ่งเป็นผู้ร้อง โดยเสนอให้เป็นแม่ค้าสำรอง ในบัญชีรายชื่อตลาดเต็นท์สีชมพูที่พัฒนาชุมชนดูแล และเต็นท์สีฟ้าที่เทศบาลประจวบคีรีขันธ์ดูแล และเมื่อมีโอกาสมีเต็นท์หลักว่าง จะได้ขยับมาเป็นแม่ค้าหลักในโอกาสต่อไป หรือมีการขยายตลาดให้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ตลาดยาว 605 เมตรให้ตลาดมีความยาวเพิ่มขึ้น ก็มีโอกาสที่จะได้เป็นแม่ค้าหลักด้วยเช่นกัน  แต่ปรากฎว่า คุณน้ำค้างปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว

ทางด้าน นางน้ำค้าง  ทรัพย์ศรี  อายุ  34  ปี  แม่ค้าลูกชิ้นซึ่งเป็นผู้ร้อง  ระบุว่า  ตนเองไม่รับข้อเสนอที่ให้ไปอยู่บัญชีแม่ค้าสำรอง ภายตลาดเต็นท์ชมพูและตลาดถนนคนเดิน  เพราะมองว่าตัวเองไม่ผิด และจะลำบาก ต้องคอยรอล็อคว่างต้องรอจับสลากในแต่สัปดาห์ ไม่มีความแน่นอน  ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยขายมีที่ประจำ  คิดว่าไม่เป็นธรรม ระหว่างนี้คงไปขายที่ตลาดหน้าอำเภอเป็นการชั่วคราว ส่วนจะร้องขอความเป็นธรรมเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ยังไม่ได้ตัดสินใจ

ส่วน น.ส.ธนญา  สุขธนะประเสริญ  อายุ  35  ปี  เจ้าของแฟรนไชส์  “ลูกชิ้นปิ้ง  น้ำจิ้มผีบอก”  กล่าวเพิ่มเติมว่า  ตนไม่พอใจผลการประชุมวันนี้ เพราะตนมองว่าไม่ยุติธรรม ตามที่กรรมการตลาดกล่าวอ้าง อีกทั้งประเด็นปัญหาของตนนั้นจบไปนานแล้ว แต่คุณน้ำค้างเป็นลูกค้าที่ซื้อแฟรนไชส์ จึงมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม   หลังจากนี้ตนเดินหน้าร้องขอความเป็นธรรมต่อแน่นอน ด้านป้าเรียม เกตุแก้ว แม่ค้าน้ำสมุนไพร กล่าวในฐานะแม่ค้าตลาดเต็นท์สีชมพู ว่า  ส่วนตัวมองว่า ผลการประชุมวันนี้ยุติธรรมดีแล้ว ทาง พช.ได้ช่วยเหลือ และผ่อนผันให้เข้ามาเป็นแม่ค้าสำรอง ซึ่งได้ขายของ เพียงแต่ล็อคไม่แน่นอน ควรต้องทำตามกฎระเบียบ ถึงจะอยู่ร่วมกันได้ อยากเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวตลาดถนนคนเดินให้มากๆ ที่ตลาดมีสินค้าขายจำนวนมาก

ส่วนนางสมฤทัย แคสตาเนต คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ตลาด กล่าวด้วยว่า แม้วันนี้คุณน้ำค้างจะปฏิเสธไม่รับข้อเสนอ แต่หากกลับไปทบทวนแล้ว และอยากกลับมาขายของที่ตลาดอีกครั้ง ทางตลาดก็พร้อมต้อนรับ แต่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของตลาดเช่นเดียวกันกับแม่ค้าคนอื่นๆ ก็สามารถกลับมาขายของได้ทุกเมื่อ