ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้น กลับมาพบหมอกควันจากไฟป่ากลับมาสร้างปัญหาอีกระลอก โดยตรวจวัดค่าฝุ่นละอองในอากาศสูงที่สุดอยู่ที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่วัดค่า PM 2.5 ได้ถึง 398 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รองลงมาคือที่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน วัดได้ 196 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะพบว่ากลุ่มหมอกควันจะปกคลุมอย่างหนาแน่นในช่วงเช้าจนถึงบ่าย จากการบินสำรวจจุดเกิดไฟและไฟป่านั้นก็พบว่าปัญหามาจากเกษตรกรเองเริ่มเก็บเกี่ยวกระเทียมออกจำหน่ายกันมากขึ้น หลังจากราคาสูงกว่าปีที่ผ่านมา แล้วต้องรีบจัดการแปลงเพาะปลูกด้วยการเผาเศษวัชพืชเพื่อเตรียมแปลงเพาะปลูกต่อเพื่อรอฝนที่ทางอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าอาจจะมีฝนตกลงมาได้ในช่วงของวันที่ 6-8 เมษายนนี้

นอกจากนี้กลับพบการเกิดไฟป่าจากการลักลอบจุดอย่างมากมายผิดปกติตามสองข้างทางของทางหลวงหลักต่างๆ และที่สำคัญก็ยังพบว่าตามแนวชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านนั้น สามารถบินตรวจสอบและเห็นกลุ่มควันจากการเผาของเกษตรกรเป็นกลุ่มควันขนาดใหญ่กระจายตามแนวชายแดน จนทำให้กระแสลมพัดพาเอาหมอกควันเข้ามาปกคลุมแทบทุกอำเภอของจังหวัดแม่ฮ่องสอนในปริมาณที่มากขึ้นตามไปด้วย ที่กลายเป็นปัญหาหมอกควันสะสมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 ในขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าจังหวัดแม่ฮ่องสอนและสำนะกบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง แม้จะเพิ่มกำลังของเจ้าหน้าที่ทั้งการเข้าไปทำความเข้าใจหรือขอร้องกับชาวบ้านถึงครัวเรือนแล้ว ชุดดับไฟป่าก็ยังคงทำงานกันอย่างหนัก เพราะพบไฟป่าเกิดขึ้นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์หรือในเขตอุทยานฯ ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา ทำให้แต่ละหน่วยต้องสับเปลี่ยนกำลังและให้ชุดที่เข้าดับไฟป่าออกมาพักและตรวจสุขภาพร่างกายอย่างละเอียด หลังจากต้องผจญกับหมอกควันไฟติดต่อกันเป็นเวลานาน จนถึงขณะนี้ในพื้นที่แม่ฮ่องสอนเกิดไฟป่าหรือ Hot Spot สะสมไปแล้วกว่า  9,499 จุด

ภาพ-ข่าว วิรัตน์  นันทะพรพิบูลย์  จ.แม่ฮ่องสอน