ที่อำเภอบางบัวทอง ต.ละหาร  อ.บางบัวทอง  จ.นนทบุรี นาย คันชิต  สุวรรณโมก  อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นพ่อของ น.ส.วิภาดา   สุวรรณโมก  อายุ 29 ปี นายคันชิต เล่าว่า เมื่อ 29 ปีที่ผ่านมา ตนอยูกินกับ นางประพันธ์  อินทรเสน  และมีลูกสาวคือ น.ส.วิภาดา   สุวรรณโมก  ซึงในขณะที่ตนพานางประพันธ์  ภรรยาของตนเข้า รพ.กุยบุรี  ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเข้าไปคอดบุตรสาว และต่อมาทาง รพ.กุยบุรีได้ออกหนังสือรับรองการเกิดจองลูกสาวตนให้ และตนยังไม่ได้ไปแจ้งเกิดฝห้กับลูกสาวของตนจนถึงทุกวันนี้จนกระทั้งลูกสาวของตนอายุ 29 ปียังไม่ได้ทำบัตรประจำตัวประชาชนเลยแม้แต่ครั้งเดียวซึ่งในวันนี้ตนได้เดินทางเข้ามาขอความเมตตรากับเจ้าพนักงานด้านการทะเบียนเพื่อของให้ลูกสาวของตนมีประประชาชนเหมือนคนอื่นๆเขาบ้าง

นายคันชิต ผู้เป็นพ่อ เล่าว่า  ในช่วงที่ลูกสาวของตนเกิดมาในช่วงนั้นตนและครอบครัวจนมากหาเช้ากินค่ำตนก็ทำงานรับจ้างทั่วไป จึงไม่ได้ไปแจ้งเกิดให้กับลูกสาวของตน และต่อมาตนก็แยกทางกับนางประพันธ์  อินทรเสน ภรรยาของตน ลูกสาวของตนก็อยู่กับย่าและพี่ป้าน้าอาช่วยกันเลี้ยงมาตามมีตามเกิดจนโตถึงทุกวันนี้และในวันนี้ตนได้ตัดสินใจพา ลูกสาวของตนเดินทางเข้ามาที่ อำเภอบางบัวทองเพื่อขอทำบัตรประจำตัวชาชนให่กับลูกสาว เพื่อที่จะได้ทำอะไรได้สะดวกเพราะทุกวัยนี้ลูกสาวของตนทำอะไรไม่ได้เลย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนได้แนะนำให้ตนกับลูกสาวเดินทางไปที่ อำเภอในส่วนที่ลูกสาวของตนเกิดและแจ้งทางฝ่านทะเบัยนเพื่อจุดประสงและทางเจ้าหน้าที่จะออกใบสสูติบัตรในกับลูกสาวของตนพร้อมทั้งทำบัตรประจำตัวประชาชนให้กับลูกสาวของตนพร้อมทั้ง สืบพยานรอบข้างว่า น.ส.วิภาดา   สุวรรณโมก เป็นลูกสาวของตนจริงหรือไม่หรือถ้าสอบถามแล้วทางเจ้าหน้าที่ไม่มั่นใจทางพ่อและลูกสาวก็ไปตรวจ ดีเอ็เอ ว่าตรงกันหรือไม่ ถ้าแน่ชัดว่าเป็นพ่อลูกกันแล้วทางนายทะเบียนก็จะเอาชื่อลูกสาวเข้ามาอยูในทะเบียนบ้านให้ได้ เพราะทุกวันนี้มีคนเข้ามาสวมสิทธิแบบนี้เยอะทางเจ้าหน้าที่จึงมีความรอบคอบมากขึ้น

ทางด้าน น.ส.วิภาดา   สุวรรณโมก  อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของนายคันชิต เล่าว่า ตั้งแต่ตนโตและจำความได้ตนไม่เคยได้เจอหน้าแม่ของตนเลยแม้แต่ครั้งเดียวเพราะพ่อกับแม่ของตนแยกทางกันตั้งแต่ตนยังแบเบาะและย่าและน้าอาได้เลี้ยงตนเอาไว้จนโต เรียนก็เรียนจบป.6 ที่ต่างจังหวัดและออกมารับจ้างงานทั้วไป เพราไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนไปสมัคงานก็ไม่มีใครรับ ซึ่งทุกวันนี้ตนได้ย้ายไปอยู่กับสามีของตนที่ต่างจังหวัดและรับจ้างกีดยางในสวนยาง ซึ่งตนก็อยากมีบัตรประชาชนเหมือนคนอื่นเขาบ้างจะได้รับสิทธิ ต่างๆเหมือนคนอื่นเขา

ทางด้านนายณัฐพล   ดิษฐวิบูลย์ ปลัดอำเภอบางบัวทองหัวหน้ากลุ่มงานทะเบียน ได้ออกมาดูเอกกระสารที่มีอยูก็มี ใบรับรองการเกิดที่ รพ.กุยบุรี และให้ความแนะนำกับนายคันชิต  สุวรรณโมก ซึ่งเป็นพ่อและน.ส.วิภาดา   สุวรรณโมก  อายุ 29 ปี สองพ่อลูกนายณัฐพล   ดิษฐวิบูลย์ ปลัดอำเภอบางบัวทองหัวหน้ากลุ่มงานทะเบียน กล่าวว่า  ต้องให้ทั้งสองคนพี่ลูไปที่ว่าการอำเภอในเขตที่รับผิดชอบ และแจ้งจุดประสงมาเข้ามาติดต่อเรื่องอะไรกับทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนคงไม่มีอะไรมากเพราทางลูกสาวมีหนังสือรับรองการเกิดของน้องอยู่แต่ก็ผ่านมาหลายปีมากแล้วก็ขึ้นอยู่กับสำนักทะเบียนนั้นๆว่าเขาจะเชื่อถือพยานแค่ไหน ถ้าไม่เชื่อก็สอบพยานคนรอบข้างญาติพี่น้องหรือคนไกล้ชิดว่าเขาทั้งสองคนเป็นพ่อลูกกันจริงหรือไม่หรืถ้าไม่แน่ใจต้องตรวจ DNA กัน เพราะว่ามีการป้องกันว่าทำไมถึงไม่ออกสูติบัตรนานแล้ว เพื่อมีเคสว่าคนไทยเราไปรับส่งอ้างว่าคนนี้เป็นลูกคนนี้เป็นญาติแล้วก็พาต่างด้าวมาทำบัตร ก็อาจจะมีการตรวจDNA หรือไม่ถ้าตามระเบียบต้องออกที่นั้น โดยปกติถ้าไม่เกินกำหนดเขาก็ไม่เรียกพยาน แต่นี้เกินกำหนดไปแล้วไม่แน่ใจว่านายทะเบียนจะเชื่อว่าเอกสารมันเป็นเอกสารจริงไหม ถ้านายทะเบียนตรวจสอบกับ รพ.กุยบุรี ได้แล้วมีหลักฐานสำเนาเขาก็จะเชื่อแล้วออกสูติบัตรได้ แต่เขสก็ยังไม่รับรองว่าน้องคืนคนในสูติบัตรหรือป่าว

ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต จ.นนทบุรี