ที่ห้องประชุมเสะเวชตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 เป็นประธานการประชุมเร่งรัดติดตามการดำเนินการยึดหรืออายัดทรัพย์สินในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในส่วนเป้าหมายความรับผิดชอบของ ภ.7 ” โดยมี ผกก.รอง ผกก.หัวหน้าสถานี สว.สภ.ทั้ง 104 สถานี ในสังกัดตำรวจภูธรภาค.7 เข้าร่วมประชุมผ่านระบบทางไกลอิเล็กทรอนิกส์ (Zoom Meeting) ณ.ที่ตั้งของหน่วย

พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาลโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) ได้ตระหนักถึงยาเสพติดเป็นภัยคุกคามและเป็นหนึ่งในปัญหาชาติที่สำคัญ ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน และ จริงจัง จึงมอบนโยบายให้ตำรวจภูธรภาค 7 ดำเนินการระดมกวาดล้างยาเสพติด ตรวจสอบยึดทรัพย์สินตามพรบ.มาตรการ กลุ่มเครือข่าย รายสำคัญ โดยมุ่งเน้นการปราบปรามทำลายศักยภาพ กลุ่มหรือเครือข่ายการค้ายาเสพติดรายสำคัญ โดยการปฏิบัติการสืบสวนขยายผลบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์ค้ายาเสพติดเป็นข่ายงานการค้ายาเสพติด และนำมาตรการทางด้านตรวจสอบทรัพย์สินเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และมาตรการทางกฎหมายอื่น

เช่น พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 หรือประมวลรัษฎากร มาใช้บังคับเพื่อทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติด พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงการกระทำที่อาจเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยการรับจ้างเปิดบัญชีม้า ซิมการ์ดม้าเพื่อรับโอนเงินจากยาเสพติด หรือใช้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 129 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท และอาจเป็นความผิดฐานสนับสนุนหรือช่วยเหลือ และสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตามมาตรา 125 หรือ 127 อัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 500,000 บาท อีกด้วย