น้องสาวโทรด่วน!! ร้อง “ปวีณา” แจ้งเรื่อง นางบี (นามสมมุติ) พี่สาวอายุ 30 ปี ถูกนายเอ้ (นามสมมุติ) สามีอายุ 33 ปี ซึ่งเป็นทหารยศสิบตรี สังกัดกองบัญชาการแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ทำร้ายร่างกายทุบตีมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดซ้อมทำร้ายนางบีจนได้รับบาดเจ็บ ขณะไปพบแพทย์ที่รพ.เพื่อรักษาตัว ยังตามไปคุกคามคุกคามพยายามจะลากตัวกลับบ้าน ซึ่งนางบีเกรงจะไม่ปลอดภัยจึงขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ

นางบี ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนถูกนายเอ้ สามี ซึ่งเป็นยศสิบตรี จดทะเบียนสมรสกันอยู่กินกันมา ตลอดระยะเวลา 2 ปี นายเอ้ มักชอบใช้ความรุนแรง เตะ ต่อย ทำร้ายร่างกาย โดยไม่มีสาเหตุ ช่วงหลังนายเอ้มีพฤติกรรมรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยจะใช้อาวุธมีดเข้ามาจ้วงแทงอยู่หลายครั้ง แต่แม่ของนายเอ้เข้ามาห้ามไว้ได้ทัน ล่าสุด ตนกับนายเอ้มีปากเสียงกันในขณะที่ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน โดยตนนั่งซ้อนท้าย นายเอ้โมโหใช้มือทุบที่หน้าขา 2 ครั้ง และใช้ศอกกระแทกเข้าที่หน้าข้างขวาจนปากแตกและใบหน้าบวมช้ำ ก่อนที่จะง้างมือตบตนอีกครั้งแต่จังหวะนั้นรถมจักรยานยนต์ได้เสียหลักล้มลงก่อน ตนได้รับบาดเจ็บมีแผลถลอกตามร่างกายและศีรษะฟาดพื้นอย่างแรง พอกลับถึงบ้านตนกับนายเอ้ก็มีปากเสียงกัน นายเอ้โมโหจะเอามีดดายหญ้าเข้ามาฟันตน แต่แม่นายเอ้เห็นก่อนจึงเข้ามาห้ามไว้ทัน

จากนั้นตนจึงโทรหาน้องสาวให้พาไปตรวจร่างกายที่ รพ.แห่งหนึ่งย่านบางเขน นายเอ้ก็ตามไปอาละวาดที่รพ. จะเอาตนกลับไปคุยกันที่บ้าน ไม่ยอมให้พบแพทย์ และไล่ให้น้องสาวของตนกลับไปทำงาน แต่น้องสาวไม่ยอมกลับ นายเอ้จึงพูดขึ้นว่า “ได้.. ถ้าคำพูดของกูไม่มีความหมาย ไม่มีใครฟังเดี๋ยวเจอกัน” ตนคิดว่าเหตุการณ์ต้องรุนแรงกว่านี้แน่ จึงให้น้องสาวโทรหาตำรวจ และแจ้งมูลนิธิปวีณาฯ ขอความช่วยเหลือ

หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.อนันต์ วรศาสตร์ ผกก.สน.บางเขน ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ สน.บางเขน แต่นายเอ้ตามมาอาละวาดโวยวายที่โรงพัก ไม่ยอมให้ภรรยาแจ้งความ และบังคับให้กลับไปคุยกันที่บ้าน แต่ภรรยาไม่ยอม เพราะถ้ากลับไปก็ต้องจบด้วยการทำร้ายร่างกายเหมือนเดิม นายเอ้จึงนั่งเฝ้าภรรยาใช้สายตาข่มขู่ที่โรงพักอยู่ตลอดไม่ยอมไปไหน

จากนั้นนางปวีณา ได้เดินทางมาที่ สน.บางเขน และประสานผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของนายเอ้ ทหารยศสิบตรี โดยผู้บังคับบัญชาเดินทางมารับตัวนายเอ้ที่สน.บางเขน ไปขังที่ค่ายต้นสังกัดเป็นเวลา 15 วัน และตั้งคณะกรรมการสอบสวน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยผู้เสียหายได้แจ้งความดำเนินคดีนายเอ้ ดังนี้ 1.ทำร้ายร่างกาย 2.ทำอนาจารลูกสาวคนโต อายุ 12 ปี 

ต่อมา นางปวีณา ได้ประสาน น.ส.กุลจิรา โฉมไสว หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร ให้นางบี และลูกสาวเข้ารับการคุ้มครองที่บ้านพักเด็กฯ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เป็นการชั่วคราว และอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ ร่วมกันล่าสุดวันที่ 27 ต.ค.66 นางปวีณา กล่าวถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือนางบีว่า เช้าวันนี้ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พานางบีและลูกสาวไปตรวจร่างกายที่รพ.ตำรวจ พร้อมกับนัดหมายผู้บังคับบัญชาของนายเอ้ เพื่อให้นางบีได้เข้าไปเก็บของออกจากบ้านพัก และมีความประสงค์ต้องการหย่าขาดกับนายเอ้ โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะพาผู้เสียหายไปเยียวยาสภาพจิตใจที่รพ. ตำรวจ และประสานกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับเงินเยียวยาต่อไป.

ภาพ-ข่าว THAIREFERFERENCE