ตำรวจทางหลวงพะเยา ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.ท.ดร.เจต จึงประเสริฐศรี สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวงพะเยา (ส.ทล.5 กก.5 บก.ทล.) ได้ตามจับรถสวมทะเบียน หลังผู้เสียหายได้รับใบสั่งค่าแต่รูปที่ปรากฏในไม่สั่งไม่ใช่รถของตน โดยก่อนหน้านี้ นางสาว อมรรัตน์(สงวนนามสกุล) ได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ว่าได้รับใบสั่งจากสถานีตำรวจทางหลวงพะเยา แต่ภาพในใบสั่งปรากฎรูปรถยนต์เก๋งโตโยต้าสีขาว หมายเลขทะเบียน กฉ 8432 เชียงใหม่ แต่รถของนางสาวอมรรัตน์เป็นรถยนต์เก๋งโตโยต้าสีเทา จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามผู้กระทำความผิดตัวจริงมาดำเนินการตามกฎหมาย

จนกระทั่งคืนวันที่ 29มิย66 พ.ต.ท.ดร.เจต จึงประเสริฐศรี สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวงพะเยา (ส.ทล.5 กก.5 บก.ทล.) สั่งการให้ ร.ต.อ.ดำรงศักดิ์ สิทธิหล่อ รองสารวัตรพร้อมกับพวก ตรวจสอบรถยนต์ต้องสงสัยสวมทะเบียน หลังได้รับแจ้งเตือนจากกล้องตรวจจับการกระทำความผิด ของศูนย์ปฏิบัติการตรวจสอบและเฝ้าระวังรถต้องสงสัย ว่ารถคันดังกล่าวขับผ่านมาในพื้นที่ โดยพบรถยนต์คันดังกล่าวบริเวณหน้าปั้มน้ำมัน ปตท.แม่ลาว ริมถนนพหลโยธินขาล่องเขต ต.จอมหมอกแก้ว อ.แม่ลาว จ.เชียงราย จึงได้สกัดเอาไว้พร้อมกับทำการตรวจสอบ

โดยพบ นางสาวมณีรัตน์(สงวนนามสกุล) เป็นผู้ขับขี่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจสอบเอกสารของรถ แต่นางสาวมณีรัตน์ ไม่สามารถนำมาแสดงได้ และจากการตรวจสอบแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข กฉ 8432 เชียงใหม่ พบเป็นป้ายปลอมทั้งแผ่นหน้าและหลัง รวมทั้งแผ่นป้ายแสดงวงกลมเสียภาษีก็ไม่ได้ออกโดยกรมการขนส่งทางบก จึงแจ้งข้อกล่าวหา “ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม” พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาและของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ลาว จังหวัดเชียงราย ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ซึ่งผลการจับกุมรถที่สวมทะเบียนคดีดังกล่าวนี้ เป็นการจับกุมครั้งที่ 2 ในรอบ 1 เดือน ทางสถานีตำรวจทางหลวงทางหลวงพะเยา จึงฝากเตือนไปยังผู้ที่ซื้อรถประเภทหลุดจำนำ หรือรถในราคาถูก รถที่ได้รับอาจเป็นรถสวมทะเบียนได้ ซึ่งโทษของ ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ซึ่งถือว่าเป็นโทษที่สูง แต่ยังมีขบวนการนำป้ายทะเบียนรถคนอื่นมาสวมทะเบียนเพื่อใช้ทำความผิด สร้างปัญหาเดือดร้อนให้เจ้าของรถ

ภาพ-ข่าว ณัฐวัตร ลาพิงค์ จ.เชียงราย