นายธนพงษ์พันธ์ ฤทธิ์ธนสิทธิ์ อายุ 38 ปี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ป่าพะยอม และร้องให้ผู้สื่อข่าวช่วยหลังพบว่าครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่ ต.เกาะเต่า อ.ป่าพะยอม ใช้ผ่ามือตีลูกชายอายุ 5 ขวบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล3  ตรงแผ่นหลังเป็นรอยเขียวช้ำ  จนเด็กเจ็บปวด และหวาดกลัว

โดยธนพงษ์พันธ์ ผู้เป็นพ่อเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันจันทร์ 26 มิถุนายน 66 ที่ผ่านมา ครูทราย ที่เป็นครูสอนเด็กปฐมวัยของโรงเรียนโทรมาบอกว่าลูกชายได้ขูดรถเก๋งตนเอง ได้รับความเสียหาย ซึ่งตนเองหลังทราบข่าวก็ได้รีบมาโรงเรียน พร้อมทั้งยกมือไหว้ขอโทษครูและยอมรับผิดชอบแทนลูกทุกอย่าง โดยได้พูดคุยกันเพื่อที่จะนำรถที่ได้รับความเสียหายจากการขีดข่วนของลูกชายให้ช่างตีประเมินราคา โดยช่างได้สำรวจพบว่ารอยขีดข่วนมีทั้งรอยเก่ารอยใหม่ แต่ก็ไม่เป็นไรพร้อมจะชดใช้ พร้อมถามกลับไปหาครูทรายอีกครั้งว่ารถที่มีร่องรอย นั่นมีทั้งรอยเก่ารอยใหม่ แต่ครูทรายยืนยันว่าลูกชายตนเอง เป็นคนทำ ก่อนที่ครูทรายได้โทรสอบถามสามีอีกครั้งว่าตรงประตูและด้านหน้า มีรอยขีดข่วนและสีถลอกนานยัง สามีครูทรายบอกว่าแกเป็นคนทำให้รถสีถลอกเองตอนที่นำ รถไปขับ พอคุยตกลงกันชักพักช่างตีราคาซ่อน 1500 บาท ตนก็ยินดีชดใช้ให้ แต่ครู่ทรายบอกว่าจะไม่ซ่อมที่อู่จะนำไปซ่อมที่ศูนย์โดยสะดวกวันไหนจะประสานอีกที ก่อนตกลงกันได้

ต่อมาตนได้นำลูกชายกลับบ้าน ก่อนที่จะอาบน้ำโดดกำลังถอดเสื้อลูกชาย ลูกชายอกพ่อหนูเจ็บ พอถอดเสื้อออกพบว่าตรงแผ่นหลังลูกชายมีรอยช้ำเหมือนโดนทำร้าย ด้วยความโมโหได้โทรไปหาครูทราย ครูทรายบอกได้ตีลูกชายตนเองไป 1ครั้ง แต่ตนไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากเห็นรอยช้ำแล้วมันมากกว่า1 ครั้งแน่นอน ก่อนที่จะนำลูกชายไปหาหมอ และแจ้งความบันทึกประจำต่อพนักงานสอบสวน สภ.ป่าพะยอม เพื่อที่จะเอาผิดกับครูทรายดังกล่าว

โดยธนพงษ์พันธ์ ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่าถ้าครูบอกชักคำว่าก่อนที่จะโทรหาพ่อได้ตีลูกตนไปเพื่ออบรมสั่งสอน แต่กลับไม่ ปกปิดจนตนเองมาเจอ ทำให้รับไม่ได้ เมื่อเห็นรอยซ้ำบนแผ่นหลังมันเจ็บจี๊ดจนบอกไม่ถูกในหัวอกความเป็นพ่อ   และตอนไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนครูทรายมา ตนให้เด็กยกมือไหว้เด็กร้องและกลัวจนตัวสั่น ครูได้แค่ขอโทษ และบอกจะขอโอกาส ซึ่งตนเองมองว่าไม่ใช่ สุดท้ายจึงเดินหน้าแจ้งความเอาผิดครูที่ทำเกินกว่าเหตุ และไม่อยากให้ลูกชายผมต้องตกเป็นทาสอารมณ์ของครู สาวคนนี้อีก จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบดังกล่าว

ภาพ-ข่าว ไสว รุยันต์ จ.พัทลุง