ชุดไล่ล่า ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจร้อย ตชด.323 กก.ตชด.32(พะเยา), เจ้าหน้าที่สำนักจักการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ อำนวยการโดย นายสงคราม ขาวสะอาด ส่วนป้องกันรักษาป่า และควบคุมไฟป่า โดย นายชาตรี สัทธรรมนุวงค์,เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้แพร่ 1,เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.ที่ 3 สาขาแพร่,เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดแพร่,เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.9 (ช่อแฮ),เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรสูงเม่น,ฝ่ายปกครองอำเภอสูงเม่น

ร่วมกันจับกุมตัว นายเสกสรรค์ อายุ 45 ปี พร้อมของกลาง ประกอบด้วย รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 3212 อุตรดิตถ์  บรรทุกไม้ประดู่ 1 ท่อน/ป.1.28 ลบม. ไม้ชิงชันแปรรูป 2 ผ/ล.ป.0.64 ลบม.รวมเป็นค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 236,800 บาท โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณบ้านหลังหนึ่งตั้งอยู่ ม.9 ต.ดอนมูล อ.สูงเม่น จ.แพร่ จากนั้นนำตัว นายเสกสรรค์ฯ ไปตรวจปัสสาวะ พบมีผลเป็นบวก จึงนำส่ง พงส.สภ.สูงเม่น จ.แพร่

นายเสกสรรค์ ผู้ต้องหา ได้บอกว่า ก่อนขับรถบรรทุกไม้ตนเองได้เสพยาบ้าเพื่อกระตุ้นความกล้า ทำให้การไล่ล่าของชุดจับกุมข้ามอำเภอ แต่เกือบรอด แต่มาจนมุมจนได้ การจับกุมดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งว่า จะมีขบวนการค้าไม้ประดู่ข้ามชาติ ทำการติดต่อซื้อไม้ประดู่จากกลุ่มผู้ทำไม้ประดู่พื้นที่บ้านบ่อหอย ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน โดยใช้รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว เป็นพาหนะในการขนย้ายไม้ เจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังร่วมกันออกตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง และได้ตั้งจุดตรวจสกัดบริเวณสามแยกบ้านน้ำพุสูง-แม่แรม จนถึงเวลาประมาณ 01.30 น. พบรถต้องสงสัยขับขี่ผ่านมา มายังจุดที่คณะเจ้าหน้าที่ดักสกัดอยู่  

ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวส่งสัญญาณไฟฉายให้รถคันดังกล่าวหยุดเพื่อทำการตรวจสอบ แต่คนขับรถคันดังกล่าวเห็นเป็นคณะเจ้าหน้าที่จึงได้เร่งเครื่องรถขับฝ่าการสกัดออกไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไล่ติดตามรถบรรทุกไม้คันดังกล่าวตั้งแต่ อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ซึ่งระหว่างทาง ยังมีรถ กระบะมาสด้าแคบ BT 50 สีน้ำเงิน ทะเบียน บก 2380 พิษณุโลก ขับขี่กีดกันไม้ให้รถของคณะเจ้าหน้าที่ติดตามรถไม้คันดังกล่าวไปได้ จนรถบรรทุกไม้เริ่มทิ้งห่างออกไป คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ตัดสินใจชนท้ายรถมาสด้าฯ จนเสียหลักยางหลังข้างแตก รถมาสด้าฯ คันดังกล่าวจึงได้ยูเทิร์นรถกลับขับมุ่งหน้าหลบหนีไปทาง จ.น่าน

ส่วนการติดตามไล่ล่ารถขนไม้อย่างเข้มข้น ได้ติดตามไปอย่างต่อเนื่องจาก อ.ร้องกวาง ผ่านอำเภอเมืองแพร่ มุ่งหน้าไป อ.สูงเม่น โดยระหว่างทาง พบว่าคนนั่งฝั่งข้างคนขับได้ยื่นตัวออกมานอกตัวรถนั่งบนประตูรถขว้างปาสิ่งของใส่รถคณะเจ้าหน้าที่ และพยามยามแกะผ้าใบที่ปิดท้ายรถเพื่อจะให้ผ้าใบดังกล่าวปลิวใส่รถคณะเจ้าหน้าที่ จนเข้าเขตพื้นที่ อ.สูงเม่น ถึงปากทางบ้านดอนมูล ม.4 ต.ดอนมูล อ.สูงเม่น จ.แพร่ รถบรรทุกไม้คันดังกล่าวได้ขับเลี้ยวเข้าไปยังบ้านดอนมูล คณะเจ้าหน้าที่จึงขับติดตามเข้าไปอย่างกระชั้นชิด ขับไล่วนเวียนอยู่ภายในหมู่บ้านดอนมูลหลายรอบ

ขณะไล่ล่าติดตามจับกุมนั้น รถบรรทุกไม้คันดังกล่าวได้ขับเบียดรถ จยย.ของเจ้าหน้าที่ อส.จนเสียหลักพุ่งชนกำแพงรั้วบ้านของชาวบ้าน ทำให้ นายหมู่ใหญ่ วันชัย คู้ลู้ สมาชิก อส.จ.แพร่ เป็นผู้ขับขี่ ได้รับบาดเจ็บ จนต้องเรียกรถพยาบาล รพ.สูงเม่น มารับตัวไปรักษาอาการบาดเจ็บที่ รพ.สูงเม่น อาการล่าสุดพบว่า แขนซ้ายหัก ใบหน้ามีบาดแผลถลอก ทางเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ได้ติดตาม รถคันดังกล่าวอย่างกระชั้นชิด จนรถเลี้ยวเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นซอยตัน มีชาย 2 คนได้เปิดประตูรถแล้วพยายามวิ่งหลบหนีเข้าไปภายในบ้านหลังดังกล่าว คณะเจ้าหน้าที่จึงได้วิ่งติดตามไปประมาณ 10 เมตร จนสามารถจับกุม นายเสกสรรฯ คนขับรถคันดังกล่าวได้ ส่วนชายนั่งข้างคนขับได้หลบหนีไปได้ จึงควบคุมตัว นายเสกสรร มาสอบสวน และตรวจปัสสาวะก็พบมีผลเป็นบวก นายเสกสรรค์ ผู้ต้องหา ได้บอกว่า ก่อนขับรถบรรทุกไม้ตนเองได้เสพยาบ้าเพื่อกระตุ้นความกล้า ทำให้การไล่ล่าของชุดจับกุมข้ามอำเภอ แต่เกือบรอด แต่มาจนมุมจนได้

จากนั้น ร.ต.ต.ภูดิส ต๊ะนิล รอง สว(ป)กก.ตชด.32 เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สูงเม่น พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาแก่นายเสกสรรค์ฯ ว่า โดยกล่าวหาว่า กระทำผิด ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 48 มีไม้กระยาเลยหวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครอบปริมาตร เกิน 0.20 ลบ.ม.โดยไม่ได้รับอนุญาตมาตรา ,69 ฐาน “ร่วมกันมีไม้หวงห้ามนยังมิได้แปรรูป(ท่อน)ไว้ในครอบครอง โดยมีได้รับอนุญาต มาตรา 70 ฐาน “ผู้ใดร่วมกันรับไว้ด้วยประการใด ช่อนเร้น จำหน่ายหรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้น ซึ่งไม้หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำผิดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ มีความผิดฐานเป็นตัวการในการกระทำผิด นั้น” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 “ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”  เป็นผู้ขับขี่ยานภาหนะเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมตแอมเฟตามีน)โดยผิดกฎหมายและเสพยาเสพติดให้ โทษประเภท1 (เมตแอมเฟตามีน)โดยผิดกฎหมายต่อไป

ภาพ-ข่าว ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่