จากกรณีเหตุนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดลาดปลาดุก ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เสียชีวิตภายในห้องเรียนคอมพิวเตอร์ โดยมีการระบุว่า สาเหตุของการเสียชีวิต เกิดจากคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ระเบิด จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตนั้น ซึ่งที่จริงแล้วเป็นเพื่อนทำปืนลั่นใส่ศีรษะเสียชีวิต

ซึ่งบรรยากาศหน้าห้องนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรตินางสาวปวีณา งามสุด ผู้เป็นแม่มาติดต่อขอรับศพน้องโชคหรือเด็กชายนพศิลป์ งามสุด อายุ14  ปี นักเรียนชั้นม.3/2 โรงเรียนวัดลาดปลาดุกที่เสียชีวิต ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดราษฎร์ประคองธรรม ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ นนทบุรี และให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวซึ่งขณะนี้ต้องรอดำเนินงานศพลูกชายให้เสร็จก่อนซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่โทรมาหาตนเลย

ตนเองก็ยังคาใจอยู่ว่าปืนมันจะลั่นเหรอและก็อยากหาความจริงให้กับลูกเพราะบาดแผลมีหมดว่ากระสุนเข้าตรงไหน ออกตรงไหน ถ้ามันลั่นจริงก็คงไม่เป็นแบบนี้ ซึ่งตนเองก็สงสัยว่าปืนลั่นหรือตั้งใจมายิง ซึ่งคำให้การครั้งแรกของมือปืนนั้นตั้งใจมายิง พอมาเปลี่ยนเป็นปืนลั่นก็ต้องให้ตำรวจช่วยดูหลักฐานอีกครั้งหนึ่งว่าอะไรกันแน่ ความจริงก็คือความจริง ถามว่าติดใจการทำงานของตำรวจไหม คือตำรวจเขาก็ทำงานเต็มที่เยาวชนทำความผิด แต่ก็ต้องให้ความยุติธรรมกับลูกตนเองด้วย เพราะลูกหนูไม่ใช่เด็กเกเรมันก็ไม่สมควรที่จะเกิดขึ้นในโรงเรียนไม่ว่าจะกลับใครทั้งนั้นซึ่งก็อาจจะเป็นคราวเคราะห์ของลูกหนูเอง ซึ่งถ้าเป็นการเอาความเป็นจริงแล้วลูกหนูไม่เคยรังวังตัวอะไรเลยมีเพื่อนสนิทอยู่ไม่กี่คน กลับบ้านเองยังไม่เป็นเลย ซึ่งตนเองก็ไม่เคยเห็นเพื่อนลูกคนนี้ และลูกไม่เคยมีปัญหากับใครซึ่งถ้าเป็นการแก้แค้นตนเองคิดว่ารุนแรงเกินไปแค่ชกต่อย หรือกระทืบก็พอแล้ว โชคไม่เอาเรื่องแน่นอน ส่วนโชคเคยมีปากเสียงกับคู่กรณีหรือไม่นั้นตนเองไม่รู้ ซึ่งแม่ไม่เชื่อว่าเป็นปืนลั่นแน่นอนถ้าชันสูตรออกมาแล้วเป็นการยิง ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

และอยากจะถามคนก่อเหตุเหตุว่ามาทำโชคทำไมและยังไม่ได้คุยกับทางโรงเรียนซึ่งทางโรงเรียนอยู่ในระหว่างตั้งคณะกรรมการสอบสวน โชคเวลาไปไหนจะขอทางบ้านตลอดลูกชายฝันว่าจะเป็นโปรแกรมเมอร์ และกำลังจะจบม.3ลูกชายก็บอกว่าอยากไปสอบทหาร และลูกเสียชีวิตคาที่ตั้งแต่อยู่ในห้องแล้ว ซึ่งตนเองไม่เชื่อว่าแป้นคีร์บอร์ดระเบิดแน่นอนเพราะตนเองก็ทำงานอยู่กับคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีการโทรบอกเพื่อนให้มาเอาปืนด้วยในห้องน่าจะมีนักเรียนประมาณ 10กว่าคน ส่วนคนก่อเหตุนั่งติดกับลูกชายหรือไม่นั้นตนเองม่แน่ใจ เด็กสมัยนี้ไม่สามารถรู้ใจได้และทางโรงเรียนก็น่าจะมีการตรวจสอบอาวุธปืนและตนเองก็มีลูกชายคน ขนาดยิงลูกตนเองตายได้นี่จิตใจเขาก็ไม่ธรรมดาแล้วน่ะ ส่วนนายประเสริฐ  แก้วมณี ผู้เป็นตาเปิดเผยว่า ทางครอบครัวมีการประสานทนายความไว้แล้ว เพื่อเตรียมดำเนินคดีกับคู่กรณีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด

ภาพ-ข่าว ธัชนนท์ พิริยะกุลชัย จ.ปทุมธานี