ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า จากกรณีที่นางสาว ธาราวดี ศรีมณี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 148 ม.5 ต.ลำสินธุ์ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง เข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดพัทลุง ว่าพี่ชายถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ที่มีรถกระบะโตโยต้าสีบร์อนทอง ไม่ทราบทะเบียน ขับรถมาจอดหน้าบ้าน จากนั้น 1ใน4 ชาย ที่นั่งมาในรถลงมาจากรถพร้อมอาวุธปืนเดินเข้ามาล็อคคอ นายปัญญาวุฒิ ศรีมณี อายุ 37 ปี ผู้เป็นพี่ชายก่อนคนร้ายขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ตามเส้นทางลำสินต์-ต้นไทร ในพื้นที่ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม โดยเหตุเกิดเวลาประมาณ 11.45 น.วันที่ 16 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา  ต่อมาในตอนบ่ายวันนี้17 พค.65  นายปัญญาวุฒิ ศรีมณี อายุ 35 ปี  และ นาวสาวจิราพร  อาจหาญ  อายุ  47  ปี เข้าพบกับพนักงานสอบสวน  สภ.ควนขนุน  จ.พัทลุง  เพื่อยืนยันว่านายปัญญาวุฒิฯยังมีชีวิตและไม่ถูกอุ้มตามที่เป็นข่าว  ตามตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น อย่างไรก็ตามในตอนเย็นวันนี้ ตำรวจชุดสืบสวนของ  สภ.ศรีนครินทร์  ได้นำทั้ง  2  คน  มาให้  พ.ต.อ.สมศักดิ์ มีสัจจานนท์ ผกก.สภ.ศรีนครินทร์ และ  ร.ต.อ.ชวน  ประเสริฐ  รอง  สว.(สส.) สภ.ศรีนครินทร์  สอบปากคำ  แต่ปฏิเสธที่จะให้กลุ่มสื่อมวลชนถ่ายภาพในช่วงการสอบปากคำ

หลังจากที่สอบปากคำเสร็จทางด้าน  พ.ต.อ.สมศักดิ์ มีสัจจานนท์ ผกก.สภ.ศรีนครินทร์ เผยว่า  จากการสอบปากคำในเบื้องต้นทราบว่าฝ่ายชายมีการนัดแนะก่อนที่จะมารับนายปัญญาวุฒิ โดยไม่มีการใช้กำลังแต่อย่างใด  โดยเจ้าตัวเดินขึ้นไปนั่งบนรถยนต์กระบะเอง ไม่มีการขู่เข็ญ ซึ่งฝ่ายหญิงมารับด้วยตนเองและนั่งอยู่ด้านหลัง โดยมีหลานชายเป็นคนขับ เท็จจริงแค่ไหนทาง  ตำรวจจะได้สอบปากคำกันต่อไป เนื่องจากมีการแจ้งความของผู้เสียหายไว้แล้ว ซึ่งจะได้นำผู้เสียหายทั้ง 2  คนที่เป็นน้องสาวและพี่สาวของนายปัญญาวุฒิฯไปตรวจร่างกายที  รพ.ศรีนครินทร์ต่อไป   หากเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เป็นความจริงผู้แจ้งความก็จะถูกแจ้งข้อหาแจ้งความเท็จ  ซึ่งจะเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงในคดีดังกล่าวต่อ

ทางด้านนางสาวณัฐยา อายุ  35  ปี  พี่สาว และ น.ส.ธาราวดี  อายุ  30  ปี  น้องสาว ทั้ง  2  คน  กล่าวยืนยันว่าเรื่องที่พวกตนเข้ามาแจ้งความเป็นเรื่องจริงทั้งหมด โดยนางสาวณัฐยาชี้บาดแผลที่หัวเข่า และมือ ให้ผู้สื่อข่าวดูอีกด้วย โดยยืนยันว่าก่อนเกิดเหตุที่จะถูกอุ้มพี่ชายของตนกำลังยืนถ่ายภาพกับโทรศัพท์อยู่หน้าบ้าน  หลังจากที่ถูกอุ้มก็ได้ตะโกนให้พวกตนช่วยเหลือ หากพี่ชายเดินขึ้นรถเองทำไมต้องขับรถหลบหนีอ้อมไปทางพื้นที่บ้านในเตา  อ.ห้วยยอด  จ.ตรัง  ทำไมไม่ขับไปยัง  อ.ควนขนุนเลยเพราะเส้นทางมันไกลมาก  พร้อมทั้งปิดโทรศัพท์ จนขาดการติดต่อ และ ถามอีกว่าหากไม่เป็นข่าวทางสื่อมวลชนจะมีการแจ้งความแก้เกี้ยวกันหรือไม่ ทำไมไม่แจ้งความในก่อนหน้านี้  ส่วนการที่ น.ส.จิราพร อ้างว่าตนเองมารับนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด  พวกตนยืนยันว่าพี่ชายถูกอุ้มอย่างแน่นอนและเหตุการณ์ดังกล่าวมีชาวบ้านเห็นอยู่หลายคน  แต่ก็แปลกใจว่าทำไมเรื่องกลับมาเป็นหนังคนละม้วนแบบนี้  ซึ่งพวกตนจะดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาที่เข้ามาอุ้มพี่ชายให้ถึงที่สุด

ขณะที่นางศิริวรรณ ศรีมณี อายุ 56 ปี ผู้เป็นแม่กล่าวว่าหากฝ่ายหญิงมารับฝ่ายชายจริงทำไมไม่เข้าตามตรอกออกตามประตู ซึ่งแม่รับไม่ได้ และเชื่อว่าน้องสาวและพี่สาวทั้ง 2 คนไม่ได้โกหก เพราะมีบาดแผลจากการถอยรถชน จนเป็นแผลถลอก

ภาพ-ข่าว ไสว รุยันต์ จ.พัทลุง