พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ขับเคลื่อนงานชุมชนสัมพันธ์และโครงการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันอาชญากรรมระดับตำบล ตามนโยบายขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน (Stronger Together)    ผลการปฏิบัติ 1 เดือน สร้างเครือข่ายภาคประชาชนทั่วประเทศแล้ว 74,463 คน และเร่งรัดแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนสำคัญเร่งด่วนให้ประชาชนทั่วประเทศเสร็จสิ้นแล้ว 631 เรื่อง

 พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ตามนโยบายรวมไทยสร้างชาติ และขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันของรัฐบาล ที่ให้ทุกส่วนราชการ ร่วมกับภาคประชาชน ร่วมกันพัฒนา และแก้ไขปัญหาในชุมชน สังคม และท้องถิ่น ตอบสนองความต้องการและแก้ไขปัญหาของประชาชนในทุกมิติ นั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ได้นำนโยบายรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติ โดยจัดทำโครงการ               “สร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันอาชญากรรมระดับตำบล เพื่อสนับสนุนการป้องกันอาชญากรรม ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามนโยบายขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน (Stronger Together)”        ให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล โดยมีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 36/2565 ลงวันที่ 31 มกราคม 2565  มอบหมายให้ตน เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และมี พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน โดยมีเป้าหมาย “เพื่อให้ชุมชน สังคมมีความสุขสงบเรียบร้อย ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีอาชีพมีรายได้ ส่งเสริมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว”

พล.ต.ท.ประจวบฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เริ่มดำเนินโครงการแล้วในปี 2563 และ 2564 มีเครือข่ายประชาชนรวม 294,272 คน และในปี 2565 ได้อบรมเจ้าหน้าที่ตำรวจในสถานีตำรวจทั่วประเทศเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานเครือข่าย จำนวนกว่า 9,000 นาย และได้คัดเลือกผู้นำท้องถิ่น ผู้นำตามธรรมชาติ ในแต่ละสถานีตำรวจเพื่ออบรมทำหน้าที่เป็นเครือข่ายประชาชน 1,483 สถานี สถานีละ 50 คน รวมจำนวน 74,463 คน จากนั้นได้ทำการอบรมให้ความรู้ เพื่อทำหน้าที่ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานงานเครือข่าย เพื่อสะท้อนความต้องการ ปัญหา และหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกันในระดับชุมชุน หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ประสานการปฏิบัติ ผ่านคณะกรรมการระดับ ตำบล อำเภอ และจังหวัด หากความต้องการและปัญหาใดเกินขีดความสามารถของจังหวัด ให้รายงานมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อรายงานให้รัฐบาลทราบต่อไป โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 เป็นต้นมา

พล.ต.ท.ประจวบฯ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2565 ตนในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฯ พร้อมกับ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รองหัวหน้าคณะทำงานฯ ได้ประชุมเพื่อขับเคลื่อนและติดตาม       ผลการปฏิบัติกับหน่วย บช.น., ภ.1 – 9 และ สถานีตำรวจ 1,483 แห่งทั่วประเทศ เพื่อรับทราบผลการปฏิบัติประจำเดือน มีนาคม 2565โดยหน่วยได้รายงานปัญหาและความต้องการของประชาชน ใน 4 ประเภท จำนวนทั้งสิ้น 780 เรื่อง พล.ต.ท.ประจวบฯ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดชุมชนสัมพันธ์ทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศ ให้เพิ่มความถี่ในการลงพื้นที่เพื่อประสานงานและรับทราบสภาพปัญหาและความต้องการของชุมชนและประชาชนให้มากขึ้น     พร้อมทั้งเร่งรัดการแก้ไขปัญหาของคณะกรรมการในแต่ละระดับตั้งแต่ระดับท้องถิ่น อำเภอ และจังหวัด เพื่อตอบสนองความต้องการและแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อสนองนโยบายรวมไทยสร้างชาติ และขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันของรัฐบาลต่อไป

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ได้ปฏิบัติงานสนองนโยบายของรัฐบาล และเห็นถึงความสำคัญของประชาชนในการมีส่วนร่วมทำงาน    แก้ไขปัญหาของสังคมร่วมกัน ข้าราชการตำรวจเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นองค์กรที่ประชาชนเชื่อมั่นศรัทธาอย่างแท้จริง