ณ อาคารกองร้อย อส.เมืองชุมพร ที่ 2 นายวิสาห์  พูลศิริรัตน์ ผวจ.ชุมพร ,พ.อ.พสิษฐ์ ชาญเลขา รอง ผบ.มทบ.44 /รอง ผอ.รมน.ชุมพร ,พ.ต. อ. เสกสิทธิ์ สุวรรณฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร ,นายสุชิน จันทร์ปาน ป้องกันจังหวัดชุมพร ,พ.ต.อ. เทเวศร์ ปลื้มสุทธิ์ ผกก. สภ.เมืองชุมพร และนายทวีป ไทยสวี ปลัดอำเภอเมืองชุมพร(เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ)รักษาราชการแทนนายอำเภอเมืองชุมพร ร่วมแถลงข่าว

นายวิสาห์  พูลศิริรัตน์ ผวจ.ชุมพร กล่าวว่า หลังทางจังหวัดชุมพรได้จับกุมผู้ต้องหาได้ก่อนหน้านี้ ได้ทำการสืบสวนขยายผลนำไปสู่การจับกุมกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในวันนี้ได้มา 3 แก๊งค์ ตามนโยบายป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทยและจังหวัดชุมพร ที่นำโดย นายธีระวุฒิ นุชนงค์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ,นายกิตติศักดิ์ จีนไทย เจ้าหน้าที่ปกครอง พร้อมสมาชิก อส. ร้อย อส.อ.ชพ.ที่ 2 เข้าทำการปิดล้อม ตรวจค้น พื้นที่เป้าหมาย สามารถจับผู้ต้องหาได้ ประกอบด้วย 1. นายอุดมศักดิ์ อายุ 33 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 3,125 เม็ด และยาบ้าซึ่งไม่อัดเม็ดมีน้ำหนัก 10.56 กรัม ต่อมาวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 สามารถจับกุม น.ส.นิภาพร อายุ 42 ปี และนายนิพนธ์ อายุ 54 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 95 เม็ด และ 3. นายจักรพงษ์ อายุ 27 ปี พร้อมด้วยนายพิทักษ์ อายุ 42 ปี ของกลางมียาบ้าจำนวน 45,155 เม็ด อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 11 มม. จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนอีกจำนวน 37 นัด รถยนต์กระบะสี่ประตูอีกจำนวน 2 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน ที่บ้านพักสวนเอื้ออารีย์(บ้านพักรายเดือน) เลขที่ 29/35 ม. 5 ต.นาทุ่ง อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อเวลา 00.20 น. ของวันที่ 4 พฤศจิกายน 2565

   ทั้งนี้จากการสืบทราบว่า นายกุ้ง(ไม่ทราชื่อและนามสกุลจริง)เป็นผู้มีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติดประเภทยาบ้าให้กับกลุ่มวัยรุ่นและมั่วสุมเป็นประจำ โดยใช้บ้านเป็นที่เก็บและจำหน่ายยาบ้า เจ้าหน้าปกครองจังหวัด พร้อมด้วยกองร้อย อส. ชุดปฏิบัติการ จึงเข้าปิดล้อม และตรวจค้นจับกุมตัว นายอุดมศักดิ์ หรือกุ้ง เกตุอาญา จากนั้นได้ขยายผลไปยังเครือข่ายผู้ค้าและผู้เกี่ยวข้องและจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มคือ น.ส.นิภาพร อายุ 42 ปี และนายนิพนธ์ อายุ 54 และขยายผลจับกุมนายจักรพงษ์ หรือเจมส์ อายุ 27 ปี และนายพิทักษ์  อายุ 42 ปี    ทั้งนี้ ผู้ต้องหาในราย นายจักรพงษ์ฯ และนายพิทักษ์ฯ เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมีประวัติเคยต้องโทษจำคุกในคดียาเสพติดมาแล้วคนละ 2 ครั้ง และออกมาจากเรือนจำได้ 7 – 8 เดือนเท่านั้นก็หันกลับมาค้ายาเสพติดอีก จนถูกจับกุมในครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่ 3

จากการจับกุมในครั้งนี้มีของกลางประกอบด้วย 1. ยาบ้าทั้งสิ้น 48,375 เม็ด และยาบ้าที่มีไม่อัดเม็ดมีน้ำหนักจำนวน 10.56 กรัม 2. อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 11 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 37 นัด 3. รถยนต์กระบะสี่ประตู จำนวน 2 คัน และ 4. รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เพื่อดำเนินคดีต่อไป

ภาพ-ข่าว ประสิทธิ์/ชุมพร