ร.ต.ท.ณัฐกิตติ์ จุมด้วง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองพะเยา รับแจ้งเหตุทรัพย์สินทางพุทธศาสนาในวัดถูกทำลาย จากนายหนิม พุทธเมฆ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 165 หมู่ 5 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา พร้อมพวก หลังเดินทางไปบูรณะและทำความสะอาดบริเวณวัดสันช้างหิน พบว่ามีร่องรอยการถูกเผาและทำลายวัตถุทางศาสนาได้รับความเสียหายหลายจุด
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบว่าพระพุทธรูปซึ่งเพิ่งผ่านการบูรณะถูกนำ ยางรถจักรยานยนต์จำนวน 3 เส้นมาสวมไว้ก่อนจุดไฟเผา ทำให้พระพุทธรูปได้รับความเสียหายบางส่วน นอกจากนี้ยังพบว่า องค์พระธาตุที่เพิ่งบูรณะเมื่อปีก่อน ถูกเผาเสียหายเช่นกัน มีคราบยางไหม้ติดอยู่บริเวณฐานอย่างชัดเจน ต่อมาผู้แจ้งได้พบชื่อของ นายสุข แรงทุน (บิดาของผู้ต้องสงสัย) ปรากฏอยู่ในบริเวณวัด จึงเข้าไปสอบถามจนทราบว่า นายทวี แรงทุน (บุตรชาย) เป็นผู้ขีดเขียนชื่อบนองค์พระพุทธรูปจริง แต่ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือเผาพระพุทธรูปหรือพระธาตุในวันเกิดเหตุ
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกคำให้การของผู้แจ้งไว้เป็นหลักฐาน และเตรียมดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา “ทำลายหรือทำให้เสียหายแก่ทรัพย์สินทางศาสนา” ซึ่งถือเป็นความผิดร้ายแรงตามประมวลกฎหมายอาญาขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่เก็บรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว
@chaijexu พะเยา ชาวบ้านสาปแช่งสนั่นวัด!คนร้ายลอบเผาพระพุทธรูป-พระธาตุวัดสันช้างหิน เสียหายหนัก ร.ต.ท.ณัฐกิตติ์ จุมด้วง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองพะเยา รับแจ้งเหตุทรัพย์สินทางพุทธศาสนาในวัดถูกทำลาย จากนายหนิม พุทธเมฆ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 165 หมู่ 5 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา พร้อมพวก หลังเดินทางไปบูรณะและทำความสะอาดบริเวณวัดสันช้างหิน พบว่ามีร่องรอยการถูกเผาและทำลายวัตถุทางศาสนาได้รับความเสียหายหลายจุด จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบว่าพระพุทธรูปซึ่งเพิ่งผ่านการบูรณะถูกนำ ยางรถจักรยานยนต์จำนวน 3 เส้นมาสวมไว้ก่อนจุดไฟเผา ทำให้พระพุทธรูปได้รับความเสียหายบางส่วน นอกจากนี้ยังพบว่า องค์พระธาตุที่เพิ่งบูรณะเมื่อปีก่อน ถูกเผาเสียหายเช่นกัน มีคราบยางไหม้ติดอยู่บริเวณฐานอย่างชัดเจน ต่อมาผู้แจ้งได้พบชื่อของ นายสุข แรงทุน (บิดาของผู้ต้องสงสัย) ปรากฏอยู่ในบริเวณวัด จึงเข้าไปสอบถามจนทราบว่า นายทวี แรงทุน (บุตรชาย) เป็นผู้ขีดเขียนชื่อบนองค์พระพุทธรูปจริง แต่ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือเผาพระพุทธรูปหรือพระธาตุในวันเกิดเหตุ เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกคำให้การของผู้แจ้งไว้เป็นหลักฐาน และเตรียมดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา “ทำลายหรือทำให้เสียหายแก่ทรัพย์สินทางศาสนา” ซึ่งถือเป็นความผิดร้ายแรงตามประมวลกฎหมายอาญาขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่เก็บรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว ภาพ-ข่าว ปัณณวิชญ์ อยุ่ดี จ.พะเยา
♬ เสียงต้นฉบับ – TONGJUDKADHAD NEWS – TONGJUDKADHAD NEWS
ภาพ-ข่าว ปัณณวิชญ์ อยุ่ดี จ.พะเยา