จากกรณี นายสิรภัทร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี อาชีพค้าขาย พร้อมด้วยแม่ คือน.ส.อัญชลีย์ หรือป้าปุ๊ก (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 61 ปี (ผู้เสียหาย) เดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือสส.ทนายโป้ง ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ว่าเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 67 เวลา 10.00 น. ป้าปุ๊กกลับจากไปซื้อข้าวที่ตลาด มาถึงบ้านพักเลขที่ 43/7 หมู่ 3 ต.ขุนศรี อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ทราบภายหลังว่าหัวหน้าชุดจับกุม คือพ.ต.ท.เรวัต สุริยะ สว.สส.สภ.ไทรน้อย พร้อมตำรวจชุดสืบสวนกว่า 15 คน ได้บุกเข้ามาตรวจค้นป้าปุ๊ก ซึ่งไม่ได้แสดงเอกสารเข้าจับกุม และตรวจค้น โดยอ้างว่ามาจาก ป.ป.ส. ตลอดเวลา แต่เมื่อถามถึงหลักฐาน ได้โชว์บัตรที่ระบุว่าเป็นสังกัด สภ.ไทรน้อย เท่านั้น และมีผู้หญิงที่อ้างเป็นตำรวจขอทำการตรวจค้นและให้ป้าปุ๊กแก้ผ้าอยู่หน้าบ้าน และตรวจค้นภายในโดยใช้นิ้วล้วงเข้าไปในอวัยวะเพศของป้าปุ๊ก ระหว่างการตรวจค้นนั้นได้มีตำรวจคนหนึ่ง ถือวิสาสะยึดกุญแจรถมอเตอร์ไซด์ไป และตรวจค้นรถมอเตอร์ไซด์ทั้งหมด และหนึ่งใน 15 คนนั้น จะบุกเข้ามาทำร้ายลูกชายของป้าปุ๊ก ซึ่งผลการตรวจค้นจับกุมไม่พบยาเสพติด และสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด ซึ่งป้าปุ๊ก (ผู้เสียหาย) และลูกชาย เห็นว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้นจับกุม ไม่ได้ปฏิบัติตามข้อบังคับแห่งกฎหมาย เบื้องต้นผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนสภ.ไทรน้อย ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมทั้งหมด 15 นาย ในข้อหา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และข้อหาร่วมกันบุกรุก

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้(24 เม.ย.67) เวลา 16.30 น. ณ ห้องประชุมศปก.ชั้น3 สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือสส.ทนายโป้ง ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร  ได้พานายสิรภัทร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี อาชีพค้าขาย พร้อมด้วยแม่ คือน.ส.อัญชลีย์ หรือป้าปุ๊ก (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 61 ปี (ผู้เสียหาย) เดินทางเข้าพบพ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.ไทรน้อย เพื่อพูดคุยเจรจากรณีดังกล่าว โดยมี พ.ต.ท.ปรัชญา สินเกื้อกูล รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ไทรน้อย และพ.ต.ท.อาจณรงค์ วงษ์ภาพ รอง ผกก.สส.สภ.ไทรน้อย ซึ่งเป็นผู้บังบัญชาของพ.ต.ท.เรวัต สุริยะ สว.สส.สภ.ไทรน้อย ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดจับกุมที่นำกำลังกว่า 15 นายเข้าตรวจค้นน.ส.อัญชลีย์ หรือป้าปุ๊ก ผู้ร้องเรียน เข้าร่วมพูดคุยเจรจาแทนโดยมีการพูดคุยชี้แจงทุกประเด็นใช้เวลาประมาณ 40 นาที สรุปได้ว่า ทางด้านน.ส.อัญชลี และสิรภัทร ได้รับฟังคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอเวลากลับไปคิดทบทวนว่าจะดำเนินคดีเพิ่มเติมกับตำรวจชุดจับกุมต่อหรือไม่ ในกรณีตำรวจยึดกุญแจรถจยย. และทางด้านน.ส.อัญชลี มีบาดแผลคล้ายรอยเล็บบริเวณเหนือหน้าอกด้านซ้าย

พ.ต.อ.เมษนนท์  กล่าวชี้แจงว่า วันนั้นมีการระดมยาเสพติดซึ่งมีเจ้าหน้าที่ประมาณ 12 คน เข้าไปที่บ้านของคุณป้า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนมีข้อมูลจึงเข้าไปบริเวณดังกล่าวเพื่อตรวจสอบและไปเจอคุณป้า ซึ่งเป็นขั้นตอนของการปฏิบัติหน้าที่ สารวัตรสืบได้รายงานว่ามีการใช้อำนาจของเจ้าพนักงานป.ป.ส. ส่วนเรื่องบัตรตามที่มีข่าวนำเสนอออกไปคิดว่าทางคุณป้าและลูกชายอาจจะมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการแสดงบัตรให้ดู ซึ่งบัตรนี้ไม่ได้ออกให้เฉพาะเจ้าพนักงานของป.ป.ส.แต่อย่างเดียว จะมีตำรวจ สรรพสามิตร เจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจตรวจค้นจับกุม ซึ่งในบัตรจะมีการระบุตำแหน่งตามที่ได้อ่าน ตนอยากจะทำความเข้าใจว่าทางสารวัตรในฐานะหนึ่งเป็นตำรวจของสภ.ไทรน้อย อีกฐานะหนึ่งก็เป็นเจ้าหน้าที่ของป.ป.ส. และมีการแสดงบัตรชัดเจน สามารถไปทำหนังสือตรวจสอบข้อมูลที่ป.ป.ส.ได้เลย อยากให้เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการแอบอ้าง

ในกรณีนี้ตนขอโทษในฐานะผู้บังคับบัญชาที่ทางสารวัตรไม่สื่อสารให้เข้าใจจนทำให้ทางคุณป้าและลูกชายรู้สึกวิตกกังวล และประชาชนทั่วไปรู้สึกตกใจกลัว ซึ่งวันนั้นทางคุณป้าก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งทางเราให้ความเป็นธรรมอยู่แล้วและทุกขั้นตอนมีภาพถ่ายและคลิปวีดีโอเป็นหลักฐาน หัวหน้าชุดสืบสวนได้รับทราบข้อมูลเรื่องนี้แล้วและได้รายงานผู้บังคับบัญชาจนถึงระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว คงจะต้องดำเนินการตามข้อเท็จจริง ตนเป็นคนกลางและไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แต่ยืนยันว่าแม้ทางตำรวจจะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาแต่ตนจะให้ความเป็นธรรมในข้อเท็จจริงที่ตรงกันทั้งสองฝ่าย ผิดก็ว่าไปตามผิด ส่วนการตรวจค้นผู้หญิงนำสิ่งของในร่างกายออกมาแสดงจะต้องตรวจค้นโดยผู้หญิงซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นผู้หญิงที่เจ้าพนักงานร้องขอให้มาตรวจสามารถทำได้และตรวจในที่ลับตาคน คลิปที่ตนตรวจสอบจะมีเหตุการณ์ระหว่างการตรวจสอบทุกอย่างยกเว้นการตรวจค้นตัวคุณป้า ซึ่งตามขั้นตอนการตรวจค้นอาจจะมีจุดใดจุดหนึ่งที่สามารถซ่อนสิ่งของใดๆก็ตาม อาจจะต้องไปสัมผัสหรือตรวจสอบ ซึ่งทำให้ผู้ที่ถูกตรวจค้นไม่สบายใจ หลังจากนี้จะรวบรวมข้อเท็จจริงในส่วนของสำนวนคดีนี้หลังจากรวบรวมพยานหลักฐานแล้วจะต้องถูกส่งไปที่สำนักงานป.ป.ท. เนื่องจากเป็นการกล่าวหาในการทุจริตต่อหน้าที่ สำนวนจะต้องถูกส่งไปที่ป.ป.ท. เพื่อให้ป.ป.ท.ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

ตนในฐานะผู้บังคับบัญชาขอโทษคุณป้าและลูกชายด้วย หากคนของเราอาจจะติดนิสัยเห็นทุกคนจะกระทำผิดกฎหมายซึ่งความจริงมันไม่ใช่ ตนจะลงโทษทางวินัยเบื้องต้นก่อนไม่งั้นประชาชนจะเดือดร้อนและอาจจะทำให้คุณป้ากับลูกชายไม่สบายใจ จะนำไปปรับปรุงในส่วนนี้และให้ทำรายงานชี้แจง ซึ่งตนจะตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าการกระทำผิดวินัยร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง เราจะได้รวบรวมไว้ส่งให้ทางส่วนกลางซึ่งเป็นส่วนที่ไม่ใช่ตำรวจและมีกฎหมายให้รับผิดชอบตรวจสอบงานตำรวจอย่างไรก็ตามก็ขอให้ทางด้านคุณป้าผู้ร้องเรียนให้สบายใจในประเด็นที่ออกสื่อว่าทางหัวหน้าชุดจับกุมมียศใหญ่กว่าพนักงานสอบสวนนั้นเป็นคนละส่วน ซึ่งฝ่ายสืบสวนกับฝ่ายสอบสวนนั้นแยกหน้าที่กันคนละส่วนอยู่แล้ว วันนี้ทางรองผกก.(สอบสวน) ก็รับทราบข้อมูลแล้ว ก็จะดำเนินขั้นตอนการสอบสวนต่อไป

ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี