ที่หน้าอาคารที่ทำการตำรวจภูธรภาค 7 อ.เมืองนครปฐม จว.นครปฐม พล.ต.ท.นัยวัฒน์  ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7,   ​เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.7 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7, ​เจ้าพนักงานตำรวจ กก.สืบสวน ภ.จว.ราชบุรี 

ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุอุกฉกรรจ์ รวม 1 ราย นายธีรศักดิ์ อายุ 40 ปี โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ชิงทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์, โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่นมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยมีอาวุธโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมหรือรับของโจร”พร้อมด้วยของกลาง

พฤติการณ์แห่งคดีเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2566  เวลาประมาณ 16.45 น. เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีด ชิงทรัพย์ (ทองรูปพรรณ) ที่ร้านทองมังกรคู่ สาขาโลตัสโพธาราม ภายในห้างโลตัสเลขที่ 175 ถ.โพธาราม-บ้านเลือก ต.โพธาราม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี  ได้ทรัพย์สินไปจำนวน 5 รายการ  ประกอบไปด้วย 1). กำไลทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 6 วง  2). กำไลทองคำหนัก 2 สลึง จำนวน 3 วง  3). แหวนทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 3 วง 4). แหวนทองคำหนัก 2 สลึง  จำนวน 12 วง  5). กำไลสายนาฬิกาทองคำหนัก 1.2 กรัม จำนวน 6 ชิ้น  รวมมูลค่าความเสียหายเป็นเงินประมาณ 662,384 บาท

ตำรวจชุดสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานประสานพนักงานสอบสวนขอศาลจังหวัดราชบุรีออกหมายจับ ตามหมายจับที่ จ.37/2567 ลง 21 ม.ค.2567 และหมายค้นที่ ค.25/2567 หลังจากนั้นในเวลา 15.25 น. ของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำหมายจับและหมายค้นเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 73/1 และ 73/8 ซึ่งอยู่ในพื้นที่ใกล้กัน หมู่ 4 ต.บางโตนด อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เมื่อเดินทางไปถึงพบนายธีรศักดิ์ คล้ำมณี  ผู้ต้องหาตามหมายจับยืนอยู่บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวชุดจับกุมจึงได้เข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแสดงความบริสุทธิ์ใจพร้อมแสดงหมายจับให้กับนายธีรศักดิ์ฯ ตรวจสอบและทำการจับกุม หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ให้ผู้ต้องหานำพาตรวจค้น และพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีดำ แดง หมายเลขทะเบียน คจค 326 ราชบุรี คันที่ใช้ก่อเหตุ และ       ของกลางรายการต่างๆ อยู่ที่บ้านเลขที่ 73/8 นอกจากในส่วนของ กำไลทองคำ, แหวนทองคำ, กำไลสายนาฬิกา ที่ผู้ต้องหาใส่รวมกันอยู่ในกล่องกระดาษและนำไปซุกซ่อนอยู่ที่ใต้กองทรายบริเวณหน้าบ้าน หลังจากที่ผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุที่สืบเนื่องจากการที่ผู้ต้องหาทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการไปติดตามทองคำที่นำไปขายและซื้อจี้ทองพระหลวงปู่ทวด จึงได้จำนนต่อหลักฐานและนำพาไปตรวจค้น จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางประกอบคดีนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ภาพ/ข่าว กิตติพงษ์ จันทร์ละมูล ผู้สื่อข่าวจ.นครปฐม