ที่บริเวณหน้าที่ว่าการ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานพริก หอมแดง กระเทียม และของดี อ.กันทรารมย์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567  ซึ่ง อ.กันทรารมย์ ร่วมกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และภาคเอกชนประชาชนทุกคนได้ร่วมกันจัดงานนี้ขึ้น  เพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ชุมชน พืชผลทางการเกษตรของกลุ่มอาชีพ กลุ่มเกษตรกร ชาว อ.กันทรารมย์ เช่น หอมแดง กระเทียม พริก และพืชอื่น ๆ อีกทั้งมีผลิตภัณฑ์ชุมชนหลากหลาย เช่น ผ้าไหม ผ้าฝ้าย(ทอมือ) น้ำมันมะพร้าว ข้าวอินทรีย์ ผลิตภัณฑ์จักสานพลาสติก ผลิตภัณฑ์แปรรูปหน่อไม้ เป็นต้น  นายสุรชาติ ชาญประดิษฐ์ ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 2  พรรคเพื่อไทย  ซึ่งเป็นแกนนำคณะ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ทั้ง 7 คน ประกอบด้วย นายธเนศ เครือรัตน์ ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 1 นพ.ภูมินทร์  ลีธีระประเสริฐ ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 4  นายอมรเทพ  สมหมาย ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 5 นายวีระพล  จิตสัมฤทธิ์ ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 6 ดร.วิลดา  อินฉัตร ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 7 น.ส.นุชนาถ  จารุวงษ์เสถียร ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 9 ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการเร่งรัดหาแนวทางในการให้ความช่วยเหลือนักศึกษาคณะพยาบาลและคณะสาขาวิชาต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของ จ.ศรีสะเกษ ที่ได้ไปยื่นเรื่องขอกู้เงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ไปนานหลายเดือนแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้รับการอนุมัติจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) แต่อย่างใด  ทำให้นักศึกษาทุกคนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักมาก  เพราะว่า ไม่มีเงินค่าใช้จ่ายในการครองชีพและค่าใช้จ่ายเป็นค่าเล่าเรียน รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เกี่ยวกับการเรียน ซึ่ง นศ.พยาบาลได้ร่ำไห้เข้าร้องทุกข์ต่อผอ.ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อขอความช่วยเหลือเนื่องจากเกรงว่าอาจจะไม่ได้เรียนต่อเพราะว่าไม่มีเงินค่าเล่าเรียน  โดยตัวแทนนักศึกษาได้ไปยื่นหนังสือร้องทุกข์ที่กระทรวงการคลัง กรุงเทพฯ เพื่อขอความช่วยเหลือจาก นายเศรษฐา  ทวีสิน นายก รมต.และ รมว.กระทรวงการคลังแล้ว

นายสุรชาติ ชาญประดิษฐ์ ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 2  พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนและคณะ ส.ส.เพื่อไทย ได้ลงไปในพื้นที่รับผิดชอบของ ส.ส.แต่ละคนแล้วพบว่า บรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองของนักศึกษาทุกคนที่ขอกู้เงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ล้วนแต่มีฐานะยากจนทั้งสิ้น และจำเป็นต้องกู้เงิน กยศ.เพื่อจะได้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพและเป็นค่าเทอม  หากพ่อแม่ของนักศึกษามีเงินคงไม่ต้องไปหวังพึ่งพากู้ยืมเงินจาก กยศ. แต่ว่าเมื่อการอนุมัติเงินกู้ยืมเรียนของนักศึกษาที่ได้ยื่นเรื่องขอกู้เงิน กยศ.ไปแล้ว ทาง กยศ.มีการอนุมัติกู้ล่าช้ามากนี้  ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองของนักศึกษาที่มีฐานะยากจนต้องหันไปกู้เงินนอกระบบซึ่งต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงมากถึงร้อยละ 10 – 20 บาท  เพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายให้ลูกหลานไปเรียนหนังสือ  ซึ่งการที่ กยศ.อนุมัติเงินกู้ล่าช้าให้นักศึกษาที่ขอกู้และทำให้พ่อแม่ของเด็กต้องไปกู้เงินนอกระบบมาเป็นค่าใช้จ่ายให้ลูกเรียนหนังสือนี้  อาจจะเข้าข่ายว่าจะเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนไปกู้เงินนอกระบบมาใช้จ่ายเพื่อการศึกษาให้กับบุตรหลานหรือไม่  เพราะว่า นักศึกษายื่นเรื่องขอกู้เงิน กยศ.ไปแล้ว แต่ว่า กยศ.อนุมัติเงินกู้ล่าช้ามากนานร่วม 9 เดือนแล้ว จะเข้าข่ายถือว่า กยศ.กระทำการที่ขัดต่อนโยบายของท่านเศรษฐา  ทวีสิน นายก รมต.และ รมว.กระทรวงการคลัง ที่ต้องการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเพื่อช่วยเหลือประชาชนหรือไม่อย่างไร ตนได้ขอให้ รมช.กระทรวงการคลังได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทำงานของ กยศ.ในเรื่องนี้แล้ว 

นายสุรชาติ ชาญประดิษฐ์ ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 2  พรรคเพื่อไทย กล่าวต่อไปว่า  เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 22 ธ.ค.2566  ตนได้ไปพบกับ รมช.กระทรวงการคลัง  ซึ่งก็ได้แจ้งให้ รมช.กระทรวงการคลังได้รับทราบสาเหตุปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับเงินกู้ กยศ.ที่เกิดขึ้นกับเด็กนักศึกษาของศรีสะเกษ  โดยเฉพาะเรื่องพ่อแม่เด็กที่ยากจนต้องไปกู้เงินนอกระบบมาให้ลูกหลานเรียนหนังสือทั้งที่ได้ขอกู้เงินจาก กยศ.ไปนานแล้ว ตนขอให้ รมช.กระทรวงการคลังได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ว่า ปัญหา กยศ.อนุมัติเงินกู้ให้กับเด็กนักศึกษาล่าช้าเพราะเหตุใด ทำให้พ่อแม่เด็กต้องไปกู้เงินนอกระบบมาให้ลูกเรียนหนังสือ เป็นการขัดต่อนโยบายของรัฐบาลเรื่องการแก้ไขเงินกู้นอกระบบหรือไม่   ทั้งที่ตามกฎหมายเด็กทุกคนอยากเรียนต้องได้เรียน โดยตนได้ขอให้ รมช.กระทรวงการคลังได้ลงมาจี้ กยศ. ในเรื่องนี้ให้ด้วย หากเขามีเงินเรียนเขาคงไม่ขอกู้เงิน กยศ.  เวลานี้พรรคเพื่อไทยกำลังอยากได้คะแนนนิยมจากนักศึกษา แต่ว่าเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อนักศึกษากับการศึกษาของชาติ กลับไม่ได้มีการเร่งรัดดำเนินการช่วยเหลือลูกหลานนักศึกษา  โดยการทำงานของ กยศ.ดำเนินการอนุมัติเงินกู้ล่าช้ามาก ทำให้นักศึกษาทั่วประเทศได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก ตนเห็นว่า ขณะนี้การทำงานของ กยศ.อาจจะขัดต่อนโยบายของ  ท่านเศรษฐา  ทวีสิน นายก รมต.และ รมว.กระทรวงการคลัง ค่อนข้างชัดเจนมาก ทั้งที่รัฐบาลมีนโยบายเน้นการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบและนโยบายส่งเสริมการศึกษาของชาติอย่างเต็มที่ ตนจึงได้ขอให้ รมช.กระทรวงการคลังได้ทำการตรวจสอบในเรื่องนี้แล้ว/

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ