ที่บริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร     ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีคณะ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นายธเนศ   เครือรัตน์ ส.ส.ศรีสะเกษ 1 นายสุรชาติ ชาญประดิษฐ์ ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 2  นพ.ภูมินทร์  ลีธีระประเสริฐ ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 4 นายวีระพล  จิตสัมฤทธิ์ ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 6 ดร.วิลดา  อินฉัตร ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 7 น.ส.นุชนาถ  จารุวงษ์เสถียร ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 9 ได้มารอให้การต้อนรับ นายสุทิน คลังแสง รมว.กระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ซึ่งเดินทางตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของกำลังป้องกันชายแดน ในพื้นที่กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 โดยนายสุทิน ได้รับฟังการบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของกองกำลังสุรนารี พร้อมทั้งตรวจภูมิประเทศบริเวณจุดตรวจการณ์ผามออีแดง ได้ให้โอวาทและมอบสิ่งของบำรุงขวัญแก่กำลังพลของกองกำลังสุรนารีที่ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันชายแดนบริเวณใกล้กับปราสาทพระวิหาร

โดยมี พลตรี พรชัย มาหลิน รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2  พลตรี ณัฏฐ์  ศรีอินทร์ ผบ.กองกำลังสุรนารี  พันเอก จิรัฏฐ์ ช่วงฉ่ำ รอง ผบ.กองกำลังสุรนารี นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผวจ.ศรีสะเกษ นายธาตรี  สิริรุ่งวนิช ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ  พ.ต.อ.กวีพงษ์ ชลการ  ผกก.ตชด.22  นายสุกิจ  เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ และผู้บังคับหน่วย พร้อมทั้งส่วนราชการในพื้นที่ ร่วมให้การต้อนรับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ซึ่งขณะนี้คณะ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทยทุกคน ได้ร่วมกันผลักดันเพื่อขอให้   นายเศรษฐา  ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้มีการเจรจากับนายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชา เพื่อขอให้มีการเปิดประตูเหล็กที่ปิดกั้นระหว่างผามออีแดง เขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารกับเขตปราสาทพระวิหารของกัมพูชาเพื่อเปิดการท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมปราสาทพระวิหารได้ ซึ่งนายธเนศ  เครือรัตน์    ส.ส.ศรีสะเกษ 1 พรรคเพื่อไทย  กล่าวว่า  ในเบื้องต้นทางคณะ ส.ส.ศรีสะเกษเราทั้ง 7 ท่านก็ได้เข้าไปพูดคุยกับท่านนายกรัฐมนตรีไปแล้วรอบหนึ่งว่าประชาชนชาวศรีสะเกษต้องการให้เปิดประตูเหล็กที่ปิดอยู่เพื่อเปิดการท่องเที่ยวสู่ปราสาทพระวิหารให้ประชาชนนักท่องเที่ยวทั่วไปขึ้นไปชมปราสาทพระวิหารได้โดยผ่านทางด้านประตูเหล็ก ติดกับเขตอุทยานแห่งชาติเขาวิหารด้านผามออีแดง ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีก็ได้ให้ความเห็นว่ายินดีเป็นอย่างยิ่งและจะเจรจากับทางประเทศกัมพูชา แต่ว่าในเบื้องต้นพวกเรา ส.ส.ศรีสะเกษพรรคเพื่อไทยทุกคนได้ไปยื่นเรื่องให้กับ ท่านนพดล  ปัทมะ ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ ได้รับเรื่องไว้เพื่อนำเรียนให้ทราบว่า ทางประชาชนชาวศรีสะเกษมีความต้องการให้เปิดประตูเหล็กสู่ปราสาทพระวิหาร ขอให้คณะกรรมาธิการได้ศึกษาความเป็นไปได้และนำเสนอท่านนายกรัฐมนตรีในเบื้องต้น ท่านประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศก็ได้มีความเห็นว่าจะต้องเชิญหน่วยงานความมั่นคง กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช หน่วยงานภูมิภาค อาจจะมี ตม.และศุลกากรเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ที่จะต้องเข้าไปร่วมพิจารณาในคณะกรรมาธิการและนำเสนอให้ท่านนายกรัฐมนตรีในลำดับต่อไป

นายธเนศ  เครือรัตน์ ส.ส.ศรีสะเกษ 1 พรรคเพื่อไทย  กล่าวต่อไปว่า ซึ่งจากการที่ตนได้สอบถามหารือกับประชาชนในท้องถิ่นและทุกส่วนราชการบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชานี้ โดยในส่วนของจังหวัดคือในส่วนของกองกำลังสุรนารี ได้หารือกับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 ซึ่งในส่วนความมั่นคงมีความเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่จะเปิดประตูเหล็กขึ้นไปชมปราสาทพระวิหาร ส่วนพ่อค้าประชาชนไม่ต้องพูดถึงซึ่งทุกคนเห็นด้วยอยู่แล้ว ทั้งข้าราชการส่วนภูมิภาคทั้งท่าน ผวจ.ศรีสะเกษ ลงมาถึงทุกภาคส่วนต่างเห็นด้วยทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาว อ.กันทรลักษ์ นำโดย นพ.ภูมินทร์  ลีธีระประเสริฐ ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 4 ต่างเห็นด้วยกับเรื่องนี้  ซึ่งในวันนี้คือเป็นการดีที่ท่าน รมว.กระทรวงกลาโหมมาดูพื้นที่ด้วยตนเอง ซึ่งก็จะได้มีการพูดคุยในเรื่องนี้กันพอสมควร ทางด้านเกี่ยวกับความมั่นคงซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาอะไรก็จะต้องขอให้หัวหน้ารัฐบาลเรานำโดยท่านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีพูดคุยกับทางหัวหน้ารัฐบาลของฝ่ายประเทศกัมพูชาซึ่งตนคิดว่าตรงจุดนี้จะสามารถทำได้ แม้ว่าทางภูมิภาคฝ่ายเราเห็นด้วย และทางภูมิภาคฝ่ายกัมพูชาเห็นด้วย มันก็เปิดไม่ได้ถ้าผู้หลักผู้ใหญ่ของ 2 ประเทศไม่ได้มีการพูดคุยกัน หลังจากที่เราทำข้อมูลให้กับทางรัฐบาลแล้วท่านนายกรัฐมนตรีจะได้นำเอาข้อมูลไปประกอบในการที่จะพิจารณาตัดสินใจ ตนเห็นว่าเราน่าจะเปิดประตูเหล็กสู่ปราสาทพระวิหารได้ในรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้  ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีท่านก็ได้เน้นในเรื่องของการท่องเที่ยวอยู่แล้ว ตนเห็นว่าท่านก็ไม่น่าจะขัดอะไรในเรื่องนี้ แต่ว่าท่านจะต้องเร่งเจรจากับฝ่ายกัมพูชาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกรรมาธิการต่างประเทศ ซึ่งจะได้ความเห็นเสนอต่อนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีของไทยก็จะได้ไปเจรจากับนายกรัฐมนตรีของฝ่ายกัมพูชาต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ต่อมา นายสุทิน  คลังแสง รมว.กระทรวงกลาโหมและคณะ ส.ส.ศรีสะเกษพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางไปตรวจสอบบริเวณประตูเหล็กที่ปิดกั้นอยู่เพื่อไม่ให้ผู้ใดผ่านขึ้นไปยังปราสาทพระวิหาร  โดยเป็นสะพานเหล็กข้ามคลองน้ำธรรมชาติ  มีสายโซ่คล้องกุญแจล็อคอยู่ 2 อัน สภาพบริเวณประตูเหล็กขึ้นสนิมเก่ามาก เพราะว่าประตูเหล็กได้ถูกปิดมานานตั้งแต่ประมาณปี 2551 เป็นต้นมา  โดยเขตประเทศกัมพูชามีเจ้าหน้าที่ทหารของกัมพูชารักษาการณ์อยู่ สถานการณ์ปกติเรียบร้อยดี

นายสุทิน  คลังแสง รมว.กระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ตนมาดูแล้วก็เสียดายมันน่าจะเป็นประตูแห่งความรุ่งเรือง น่าจะเป็นประตูแห่งความอยู่ดีของพี่น้องประชาชนทั้ง 2 แผ่นดิน น่าจะเป็นประตูสันติสุขเพราะฉะนั้นเราก็เห็นว่า ก็น่าจะได้มีการทบทวนว่าเราเปิดประตูตรงนี้ก็น่าที่จะเป็นผลดีกับประชาชนทั้ง 2 ประเทศก็เลยได้มาตรวจสอบดู ซึ่งการที่มาดูประตูเหล็กในครั้งนี้ก็เป็นผลมาจากการที่ตนได้ไปเยือนประเทศกัมพูชามาแล้ว ก็มีการพูดคุยกันระดับผู้นำแล้วก็ได้นำเอานโยบายนั้นมามอบให้กับผู้ปฏิบัติในเรื่องของการเปิดด่านก็เป็นเรื่องที่เราได้มีการพูดคุยกัน  ซึ่งก็มีความเห็นตรงกันอยู่เพราะคิดว่ารอระยะเวลาซักระยะหนึ่งก็น่าที่จะเป็นไปได้ตรงนี้ก็จะน่าจะคึกคัก น่าจะเป็นข่าวดีตนก็คิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ว่าขอเวลานิดหนึ่ง โดยได้ขอให้ร่วมกันระมัดระวังบทเรียนในอดีตอะไรที่อะไรที่เราจะต้องเคลียร์ให้มันดีๆ ก่อนแล้วจึงค่อยเปิดประตูเหล็กสู่ปราสาทพระวิหารจะต้องเตรียมการให้ดีก่อน ซึ่งตนคาดว่า รัฐบาลนำโดยท่านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะสามารถเจรจากับผู้นำของกัมพูชาเพื่อเปิดประตูเหล็กนี้เปิดการท่องเที่ยวสู่ปราสาทพระวิหารได้ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อจะได้เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนชาวศรีสะเกษ ชาวไทยทั่วประเทศและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ได้ขึ้นไปเที่ยวชมปราสาทพระวิหารโดยผ่านประตูเหล็กตรงนี้ เพื่อประโยชน์ทางด้านการค้าและการท่องเที่ยวของประชาชนทั้ง 2 ประเทศต่อไป/

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ