นายบัณฑุร อายุ 29 ปี และนางสาวอรวรรณ อายุ 28 ปี พ่อแม่ของน้องเอม อายุ 2 ขวบ 11เดือน ได้เดินทางมาที่มูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อร้องของความเป็นธรรมให้กับลูกสาวที่เสียชีวิตหลังไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี

ด้านนางสาวอรวรรณ  โอวาท อายุ28ปี บอกว่าเมื่อวันที่ 10 ต.ค.66 ลูกสาวป่วยเมื่อวันที่ 10 ต.ค.66 ลูกตัวร้อนซึ่งตนเองเลิกงานและลูกมีอาการอาเจียน ตนเองก็เอายาซาราแบบน้ำให้ลูกกินและก็เช็ดตัวไข้ก็ลดลงจากนั้นช่วงเช้าของวันที่ 11 ต.ค.66 ตนเองป้อนข้าวลูกก็กินปกติแต่ลูกกินข้าวได้น้อย และลูกก็ตัวร้อนอีกและไข้ก็ลดลงแต่ลูกกินได้แค่นม ตนเองก็ออกไปทำงานซึ่งหลังจากตนเองเลิกงานมาตอนเย็นก็พบว่าลูกหน้าซีด และอาเจียน และถ่ายด้วย จึงพาลูกไปโรงพยาบาลและก็พบหมอที่ห้องฉุกเฉินซึ่งทางพยาบาลที่อยู่หน้าห้องฉุกเฉินได้ตรวจและบอกว่าลูกต้องนอนโรงพยาบาลน่ะ และเมื่อเข้าไปพบหมอซึ่งตนเองก็แจ้งว่าที่บ้านมีเด็กเป็นโรคไข้เลือดออกแต่ตอนนี้หายแล้ว ระหว่างนั้นหมอก็ได้ตรวจวัดความดัน และปอดและก็บอกว่าปกติและอีก 2 วันมาหาหมอใหม่น่ะจากนั้นไปรับยาซาราที่หมอจ่ายให้ระหว่างนั้นลูกสาวก็ถ่ายท้องออกมาอีกครั้งตนเองก็อุ้มลูกไปเข้าห้องฉุกเฉินอีกครั้ง จากนั้นเขาก็ทำการเจาะเลือดแต่เลือดไม่ออกเขาก็พยายามเค้นให้เลือดออก โดยเจาะเลือดที่แขนและเท้าและหมอก็เอายาอะไรไม่รู้มาฉีดให้กับลูกของตนเองจากนั้นชีพจรก็อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด และก็เอาลูกสาวไปปั้มหัวใจจนปั้มหัวใจประมาณ20 นาทีหมอก็บอกว่าตอนนี้ทางหมอพยายามปั้มหัวใจแล้ว แต่น้องไม่มีอาการตอบสนองและถ้าปั้มหัวใจนานเข้ากระดูกกล้ามเนื้ออกจะหัก ตนเองก็ปรึกษากับสามีให้หมอหยุดปั้มหัวใจหลังจากที่ปั้มหัวใจไปได้ 40 นาที ที่ตนเองมาร้องที่มูลนิธิปวีณาในวันนี้เขาอยากให้ช่วยในเรื่องศพของลูกตนเองเพราะอยากรู้ว่ายาที่หมอฉีดเข้าไปนั้นเป็นยาอะไรกันแน่และสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงของลูกเกิดจากอะไรกันแน่ซึ่งลูกสาวตนเองเป็นไข้แค่ 2 วันและมาหาหมอไม่กี่ชั่วโมงก็เสียชีวิตลงซึ่งตนเองมีลูกสาวแค่คนเดียว

ด้านนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี บอกว่าซึ่งเคสนี้เป็นอีกเคสหนึ่งที่น้องอายุ 2 ขวบเสียชีวิตกะทันหันหลังจากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเพียง 2 ชั่วโมงเศษ คุณพ่อคุณแม่ก็เกิดความสงสัยว่าลูกสาวเสียชีวิตเพราะสาเหตุอะไรกันแน่ ซึ่งทางมูลนิธิต้องประสานกับทางโรงพยาบาลที่น้องเข้ารับการรักษา และต้องทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงไม่ว่าจะเป็นการฉีดยาให้กับเด็ก แล้วทำไมชีพจรได้อ่อนลงไปหรือน้องเป็นโรคอะไรกันแน่ซึ่งหนังสือรับรองการเสียชีวิตนั้นระบุไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต