ตำรวจสอบสวนกลางสนธิกำลัง กก.4 บก.ปคม.,บก.สอท.1,ชป.3 ศปอส.ตร. โดยการอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.,พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8/หน.ชป.3 ,สั่งการให้ พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม รอง ผบก.ปปป.,พ.ต.อ.รัชภูมิ กุสุมาลย์ ผกก.4 บก.ปคม.,นำกำลังชุดสืบสวน ชป.2 กก.4 บก.ปคม.พร้อมชุด สอท.1 จับกุมตัว นายธนัญชย์ สงวนนามสกุล อายุ 18 ปี ชาว ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย  เป็นบุคคลตามหมายจับจำนวน 6 หมายจับ คือหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง(มีนบุรี)ที่26/66,ศาลเยาวชนครอบครัวนครราชสีมาที่ 28/65,ศาลเยาวชนครอบครัวจ.พัทลุงที่ 15/65,ศาลเยาวชนครอบครัวกลาง ที่7/2565และ 26/2565,ศาลอาญามีนบุรีที่550/2566 ลง25 พ.ค.2566 ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น ร่วมกันโดยทุจริต หรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ิัิัอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

โดยนายธนัญชย์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง โดยให้การว่า ตนเองได้เปิดบัญชีออมทรัพย์ ธ.กรุงไทย สาขาแม่สายและได้นำสมุดบัญชีพร้อมบัตร ATMขายให้กับเพื่อนของพี่ชายชื่อแจ๊ค ชาว อ.แม่สาย ในราคา 2,500 บาทเมื่อประมาณปี 2564 โดยไม่ทราบว่านายแจ๊คได้นำบัญชีไปทุจริตหลอกหลวงหรือทำลักษณะใดแต่เนื่องจากตนได้ผูกระบบเเจ้งเตือนการเคลื่อนไหวผ่านระบบเอสเอ็มเอสกับบัญชีดังกล่าว จึงเห็นมีการหมุนเวียนเงินเข้า ครั้งละ1แสน,3แสน,5หมื่น และ3หมื่นบาทหลายครั้งและมีการถอนเงินออกไป ในทันที เท่าที่จำได้วงเงินหมุนเวียนกว่า 4 ล้านบาท ซึ่งตนเองไม่ทราบว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการประกอบกิจการใด และไม่สามารถติดต่อนายแจ๊คถามผู้ซื้อบัญชีไปถึงที่ไปที่มาของเงินได้ และไม่ทราบว่าตนถูกออกหมายจับจึงเดินทางเข้ามาในตัวเมืองเชียงรายเพื่อเที่ยวดูคอนเสริตกับเพื่อนๆและเข้าพักอาศัยอยู่ โรงแรมแห่งหนึ่งในต .ริมกก อ.เมืองเชียรายจึงถูกเจ้าหน้าที่ติดตามสะกดรอยและจับกุมตัวได้ในที่สุด เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว นายธนัญชย์ฯ ส่ง พนักงานสอบสวน สน.สายใหม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ-ข่าว ณัฐวัตร ลาพิงค์