จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปวงจรปิดพร้อมระบุข้อความว่า “โจรขึ้นบ้านคะ ณ.ชุมชนทิพย์ปัญญา เส้นคลองบางไผ่ หลังวัดลาดปลาดุก (เส้นเดียวกับร.ร.กสินธร) วันที่ 20 ส.ค 2566 เวลา 19:30 น. ออกไปแล้ว 1 ครั้ง และปีนเข้ามาใหม่อีกครั้งในเวลา 21.40 น.ระยะเวลาห่างกันประมาน 45-50 นาที ปีนผ่านหน้าต่างหลังบ้านคะ ในคลิปคนร้ายน่าจะใส่จมูกปลอมเพื่ออำพรางใบหน้า ตัวใหญ่และค่องข้างสูง หยิบจับของในบ้านแบบไม่รื้อค้นกระจัดกระจาย ถ้าไม่มีกล้องวงจรปิด คงไม่รุ้ว่ามีคนเข้ามา

คนร้ายเอากระปุกตังลูกชายไป และหยิบเหรียญที่วางกองอยู่ประมาณ 400-500 บาทไป แต่หยิบไปไม่หมด คงไม่อยากให้ผิดสังเกตุ คิดว่าคนร้ายย่าจะอยู่บริเวณนี้ด้วยคะ เพราะปีนเข้ามายังไม่ทันดึกมาก ตอนนี้แจ้งความแล้ว มีตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานมาปัดลอยนิ้วมือคนแล้วไปได้แล้วคะ #อยากให้เพื่อนๆระมัดระวังตัวคะ บ้านเราไม่ได้ติดเหล็กดัดคะ โจรเลยงัดกระชากบานกระจกเข้ามาได้ และโชคดีที่ครอบครัวเรายังปลอดภัย”

ภาพจากกล้องวงจรปิดวันที่ 20 ส.ค. 66 เวลา 19.32 น. จับภาพคนร้ายงัดหน้าต่างหลังบ้านของผู้เสียหายก่อนจะปีนเข้ามาภายในบ้าน เดินไปเปิดผ้าม่านเพื่อดูลาดเลาก่อนจะเดินสำรวจข้าวของในบ้าน หยิบกระปุกออมสินบนโต๊ะเขียนหนังสือเด็ก และย้อนกลับมาอีกครั้งเวลา 20.48 น. ใช้โทรศัพท์มือถือเปิดไฟส่องและรื้อค้นทรัพย์สินเพิ่มเติม   

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณชุมชนทิพย์ปัญญา ถ.ทางหลวงชนบท ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าวกับ นายอรรถพล หงษ์พงษ์ อายุ 37 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว (เจ้าของบ้าน) กล่าวว่า คืนเกิดเหตุวันอาทิตย์ที่ 20 ส.ค. 66 ประมาณ 19.30 น. คนร้ายเข้ามาจากทางหลังบ้าน งัดหน้าต่างเข้ามารื้อค้นทรัพย์สินในบ้าน ได้กระปุกออมสินของลูกชายไป และเศษเหรียญ รวมกันประมาณ 5-600 บาท โดยคนร้ายรื้อค้นใช้เวลาไม่นาน ดูจากกล้องวงจรปิดคนร้ายอายุประมาณ 30-35 ปี ใส่หมวกโม่งคลุมหัว สวมเสื้อยืดสกรีนคำว่า “ไบร์ท” กางเกงขาสั้น มีการอำพรางใบหน้าเอาอะไรปิดจมูกไว้ทำให้ดูจมูกโตกว่าปกติดูรูปพรรณสันฐานได้ไม่ชัดเจน มีรอยสักใต้ร่มผ้าบริเวณแขนข้างซ้าย ในบ้านมีรอยเท้าคนร้ายไม่สวมรองเท้าเปื้อนขี้โคลน ตามหน้าต่างมีรอยนิ้วมือ คนร้ายเดินมาจากหลังบ้านที่เป็นพื้นดินถม และกระชากตัวล็อคกระจกจนอ้าออก สามารถเปิดได้โดยไม่ได้ล็อค แต่ตนซ่อมไปแล้ว ตอนนี้ตนรู้สึกอันตรายมากเพราะบ้านตนอยู่กัน 3 คน พ่อแม่ลูก มีเด็กเล็ก มีแฟนตน ตอนนี้แฟนไม่กล้ากลับมานอนบ้านต้องย้ายไปนอนบ้านแม่ เพราะหวาดระแวงและกลัวคนร้ายจะย้อนกลับมาอีก ไม่รู้จะกลับก่อเหตุอีกเมื่อไหร่ และถ้าวันไหนตนไม่อยู่ แฟนกับลูกอยู่กันแค่ 2 คน จะเป็นยังไง โชคดีคืนที่คนร้ายเข้ามาแล้วไม่มีคนอยู่ในบ้าน หลังจากนี้คงต้องรอให้ติดเหล็กดัดให้เรียบร้อยและจับคนร้านได้จึงจะกลับมานอนที่บ้าน อยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับคนร้ายให้เร็วที่สุด

ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี