นายอลงกรณ์ พลบุตร รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เขียนเฟสบุ๊คเรื่อง “สปิริตประชาธิปไตย Spirit of Democracy” อย่างน่าสนใจโดยมีใจความดังนี้

“สปิริตประชาธิปไตย Spirit of Democracy”
ประชาธิปไตยเป็นระบอบการเมืองการปกครองที่เรียบง่ายและมีสปิริต ประชาชนเลือกตั้งเสร็จ ใครชนะก็เป็นรัฐบาล ใครแพ้ก็เป็นฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกลชนะได้เสียงอันดับ 1 มีสิทธิ์และความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาล โดยต้องรวมเสียงให้ได้เกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร แต่ถ้าทำไม่ได้ก็เป็นสิทธิ์ของพรรคเพื่อไทยอันดับ 2 และพรรคภูมิใจไทยอันดับ 3 ในการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป
ผมหวังว่าวุฒิสมาชิกจะสนับสนุนแนวทางนี้ของสภาผู้แทนราษฎรในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เมื่อจัดตั้งรัฐบาลได้มีนายกรัฐมนตรีแล้วก็ให้ทำงาน 4 ปี ฝ่ายค้านทำหน้าที่ถ่วงดุลตรวจสอบรัฐบาล แต่ละฝ่ายมีโอกาสทำงานเท่ากันในการพิสูจน์ผลงาน แล้วตัดสินด้วยคะแนนเสียงของประชาชนในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ประชาธิปไตยต้องมีสปิริต รู้แพ้รู้ชนะเหมือนแข่งกีฬา ถ้าเราไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง แล้วเราจะให้ประชาชนมาออกเสียงลงคะแนนทำไม การยอมรับผลการเลือกตั้งเป็นหลักการสำคัญในระบอบประชาธิปไตย ที่น่าวิตกคือมีการปล่อยข่าวเฟคนิวส์ ข่าวดีลลับ ข่าวฐานทัพอเมริกัน ข่าวอเมริกาหนุนหลัง ข่าวรัฐบาลแห่งชาติ ข่าวเลือกตั้งโมฆะ มีคลิปปลุกระดมสร้างความเกลียดชังมุ่งดิสเครดิตฝ่ายตรงข้ามออกมาถี่ยิบ ทั้งในสื่อหลักสื่อโซเชียล เหมือนการปลุกผีคอมมิวนิสต์ในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ข่าวสารเหล่านี้สร้างความแตกแยกในบ้านเมือง ไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ประชาธิปไตยไม่ได้สร้างด้วยความเกลียดชังแต่สร้างด้วยการเคารพในความเห็นต่างอย่างมีเหตุผลด้วยสันติวิธีและขันติธรรม การเปลี่ยนผ่านอำนาจจากรัฐบาลหนึ่งสู่อีกรัฐบาลหนึ่ง ควรเป็นไปโดยราบรื่นและรวดเร็ว ประเทศกำลังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจอย่าซ้ำเติมด้วยวิกฤติการเมือง หนทางเดียวคือช่วยกันทำให้ประเทศของเราเดินไปข้างหน้าตามครรลองของระบอบประชาธิปไตยครับ