พ.ต.ท.อรรฆพันธุ์ บัวสำลี รอง.ผกก.สืบสวน สภ.ตลุกดู่ พร้อมกำลังได้เดินทางไปยังวัดโป่งเก้ง หมู่ 15 บ้านโป่งเก้ง ต.ตลุกดู่ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี  จากกรณี  ได้มีกลุ่มออแกไนซ์  เข้ามาขอจัดงานยกช่อฟ้า ของวัดโป่งเก้ง ในวันที่ 24 – 30 เม.ย.66 โดยขึ้นป้ายโฆษณา มีนักร้องดังเช่น ลูกแพร อุไรพร  ไหมไทย หัวใจศิลป์ บัวผัน ทังโส เด่นชัย วงศ์สามารถ  หมอลำหัวใจเพชร เป็นต้น  โดยกลุ่ม พ่อค้า แม่ค้าเห็นมีการละเล่นดี คนคงมาเที่ยวงานจำนวนมาก ได้แห่ไปจองร้านค้าภายในวัด กับกลุ่มออแกไนซ์ ทีมีชื่อขึ้นป้าย  คุณไสว  เจ้าเจ็ด (เอ็น)  นายจ่าดำ กรรมวัด และเป็นโฆษกวัด หลังจากได้ว่างเงินมัดจำจองที่ ร้านค้าไว้บ้างส่วนแล้ว

เมื่อถึงวันงานช่วงเย็น   แม่ค้าที่วางเงินมัดจำเงินไว้ต่างทยอยนำสินค้าต่าง ๆ เข้าไปว่างตามล๊อก ที่จัดงานไว้ให้ และแม่ค้าบ้างคน ซึ่งประกอบอาชีพมานาน และได้รู้จักกับนักร้องทีจะมาแสดง และวงดนตรี จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถาม โดยนักร้องทุกคนให้การปฏิเสธ ว่าไม่มีคิวที่จะมาแสดงทีวัดโป่งเก้ง  กลุ่มแม่ค้าพอทราบเรื่องดังจึงต่างวิพาษ์ วิจารณ์ กัน ว่าแบบนี้สินค้าไม่ตรงปก ใคร่จะมาเที่ยว จึงได้ขอเงินคนจัดงานคืน จึงทำให้คนจัดงาน และกรรมการมีปากเสียง จนเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งนำตัวนายจ่าดำ อายุ 32 ปี เป็นกรรมวัด และเป็นโฆษกวัด พร้อมกลุ่มชาวบ้านหลายสิบหลาย ไปยังโรงพักตลุกดู่ เพื่อเจรจาขอเงิน ค่ามัดจำคืนโดยทางนายจ่าดำ นั้นได้นำมาคืนให้กับแม่ค้าไปจำนวน 10 คน เป็นเงิน 10800 บาท เมื่อช่วงเย็นทีผ่านมา

หลังจากนั้น เมื่อช่วงสายเวลา 10.00น.วันที่ 25 เม.ย.66 พ.ต.ท.อรรฆพันธุ์ บัวสำลี รอง.ผกก.สืบสวน สภ.ตลุกดู่ พร้อมกำลังได้เดินทางไปยังวัดโป่งเก้ง หมู่ 15 บ้านโป่งเก้ง ต.ตลุกดู่ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี  เพื่อตรวจสอบ ว่ายังมีกลุ่มแม่ค้าว่ายังมีแม่ค้ารายได้ที่ยังไม่ได้รับเงินมัดจำคืนบ้าง

ซึ่งพบกับนางขันทอง วรอินทร์ ซึ่งได้กล่าวว่าตนเองพร้อมกับทีมงาน ได้มาช่วยทางวัดจัดงาน และลงทุนไปแล้ว กว่า 3 หมื่นบาท กล่าวว่าท่านพระครูอุปกิตสารโสภณ เจ้าอาวาสวัดโป่งเก้ง นั้นพูดจ๋าไม่รับหน้าเสื้อเลย ไม่เคยอยู่ทางพวกเรา ที่เข้ามาช่วยงานและลงทุน และเป็นคนให้จัดงานก่อน ซึ่งถ้าหลวงพ่อไม่อนุญาตให้จัดก่อน พวกเราจะมาจัดงานได้อย่างไร ซึ่งหลวงพ่อหักพร้าด้วยเข่า พวกมันมาจัดกันเอง เข้าไม่รู้เรื่อง เพื่อช่วยเงินผมในวันที่ 30 เม.ย.ยกช่อฟ่อ มันจะจัดกันอย่างก็จัดไป ผมไม่อนุญาต จัดกันเอง หลวงพ่อพูดถูกรึเปล่า และไม่กล้าออกมาให้ข่าว เดินหนีนักข่าวตลอด ตนเองลงทุนหมดไปแล้ว 3 หมื่นบาทตนเองจะได้เงินที่ไหนคืนมา

หลังจากนั้นได้มีปราณี อินทร์รักษา ซึ่งเป็นชาวบ้านเดินทางมาทำบุญกองทุน โดยได้ได้โอนเงินทางบัญชีของแฟนนายจ่าดำไปแล้ว 1 หมื่นบาท ก็จะขอเงินคืนในเมื่อไม่มีการจัดงานเกิดขึ้นและนายยอดชาย ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายฟอร์นิเจอร์ โต๊ะไม้ และอื่น ได้โอนค่ามัดจำ 5 พันบาท ให้กับนายไสว เจ้าเจ็ด ซึ่งเป็นออแกไนซ์ เพื่อขอเงินคืนเมื่อไม่มีการจัดงานเกิดขึ้น และยังเหลืออีกหลายราย

ด้านนายจ๋าดำ ซึ่งเป็นโฆษก ของในงาน และเป็นตัวแทน ของนายไสว เจ้าเจ็ด ได้พยายามติดต่อทางโทรศัพท์ให้นายไสว นั้นนำเงินค่ามัดจำ มาคืนให้กับกลุ่มแม่ค้า หรือโอนเข้าบัญชีของแม่ค้า ต่อหน้าตำรวจหลังจากนั้นนายจ๋าดำ ได้เข้าพบกับเจ้าอาวาส และได้ออกมาพูดกับนักข่าว ว่างานมันดำเนินงานต่อไปไม่ได้ก็ไม่ต้องดำเนิน ส่วนร้านค้าเข้าจะขายก็เรื่องของเข้า เราไม่ได้บังคับ ส่วนงานนั้นยกเลิก ส่วนแม่ค้าที่ยังไม่กลับ ก็จะเรี่ยไรออกเงินกันเอง

ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามจะเข้าขอสัมภาษณ์ กับพระครูอุปกิตสารโสภณ เจ้าอาวาสวัดโป่งเก้ง แต่ให้การปฏิเสธ ที่จะให้ข่าว พร้อมกับไม่ให้นักข่าวถ่ายภาพ โดยจะฟ้องนักข่าว หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามเกี่ยวกับคณะกรรมการว่าทางวัดโป่งเกงนั้นไม่มีคณะกรรมการ และไวยาวัตรจักรกร โดยเงินทางเจ้าอาวาสวัดเก็บเอง และทางเจ้าอาวาสนั้นส่วนใหญ่จะไม่ถูกชาวบ้านในขตหมู่ 5 บ้านโป่งเก้ง ซึ่งชาวในระแวกนั้นจะไปทำบุญวัดหนองม่วง และวัดอื่นหมด

ภาพ-ข่าว นายพชร พัสกุล   สมาคมสื่อมวลชนอุทัยธานี