นายอู๋ จื้ออู่  กงสุลใหญ่จีนประจำเชียงใหม่กล่าวว่า เชียงใหม่ไม่ใช่จังหวัดที่แปลกใหม่สำหรับตนเอง โดยตนได้มีโอกาสมาเยือนเชียงใหม่ครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม 2536  ตลอดระยะเวลา 30 ปีต่อจากนั้นมา ได้มีโอกาสเดินทางมาเยือนเชียงใหม่และได้เชยชมความงดงามของ “กุหลาบแห่งภาคเหนือ”นี้บ่อยครั้ง  แต่ตอนที่เดินทางมารับตำแหน่งกงสุลใหญ่จีนประจำเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2563  รู้สึกไม่คุ้นเคยกับถนนที่เงียบเหงาและรถราที่บางตา แม้รู้อยู่ในใจว่ามันเป็นเพราะผลกระทบของโควิด จนกระทั่งได้เห็นป้ายคำขวัญของเทศบาลนครเชียงใหม่ที่เขียนว่า “จีนไทยครอบครัวเดียวกัน ผ่านอุปสรรคไปด้วยกัน” “ไทยจีนสองแผ่นดิน หัวใจเดียวกัน”  ข้อความสั้นๆ ที่จับใจเหล่านี้ บอกกับตนเองว่า ได้มาพำนักอยู่ที่บ้านญาติแล้ว มีพี่น้องอยู่รอบข้าง

ที่ผ่านมาแม้จะมีการแพร่ระบาดของโควิด แต่กิจการงานของเราไม่ได้หยุดยั้ง เราได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ในเขตอาณาอย่างแข็งขัน ร่วมมือกับองค์กรและสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงต่างๆ เพื่อริเริ่มจัดการแข่งขันทักษะทางด้านภาษาและวัฒนธรรมจีน หลากหลายรายการ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี ที่สำคัญได้มีโอกาสในการร่วมกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ของ ท้องถิ่นด้วยความกระตือรือร้นและร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของพลเมือง ชาวจีน ซึ่งเรายังได้ฉลองครบรอบ 30 ปี ของการจัดตั้งสถานกงสุลใหญ่จีนประจำเชียงใหม่ เพื่อย้อนมองอดีต มุ่งสู่อนาคต  ขณะที่ตนเองยังได้รับเกียรติได้เป็นคณบดีของคณะกงสุลประจำ เชียงใหม่อีกด้วย

ในครั้งนี้ ขอขอบคุณสำหรับมิตรภาพที่อบอุ่นและความช่วยเหลืออันล้ำค่าของทุกท่านในจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือ ช่วงเวลา 2 ปี 10 เดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่นานพอที่จะจารึกความทรงจำที่สวยงามและสร้างความผูกพันที่เหนียวแน่น แม้ตนเองจะอำลาตำแหน่งไป จะยังคงส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศจีนและภาคเหนือของไทยต่อไปอย่างไม่ลดละ