จากกรณี นางเพ็ชรัตน์ อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นยูทูปเบอร์ ใช้ชื่อว่าช่องหยาดเพชรเต่างอย ทะเลาะกันกับยูทูปเบอร์ช่องบูมน้อยร้อยเอ็ด หรือนายสุรชัย อายุ 38 ปี กรณีเปิดรับเงินบริจาคให้กับวัดบ้านกวนบุ่น ต.จันทร์เพ็ญ แต่ไม่โปร่งใส และไปอาศัยอยู่ภายในวัดกวนบุ่นเป็นเวลานานหลายเดือน จนเจ้าคณะอำเภอเต่างอย มีคำสั่งย้ายเจ้าอาวาสวัดกวนบุ่น ไปอยู่ที่อื่น สร้างความไม่พอใจแก่ยูทูปเบอร์หยาดเพชรเต่างอยเป็นอย่างมาก จึงได้มาไลฟ์สดด่าเจ้าคณะอำเภอแบบหยาบคายถึงขั้นขึ้นมึงกู และไลฟ์ด่าผู้ที่มีความเห็นต่าง สร้างความปั่นป่วนให้กับชาวเต่างอย

จนต่อมานายชาญชัย งอยผาลา ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอเต่างอย จึงเรียกประชุมคณะกรรมการ โดยเรียกคู่กรณีทั่งสองฝ่ายมาร่วมประชุมเพื่อหาข้อยุติ เพราะหยาดเพชรเต่างอย พื้นเพไม่ได้อยู่ที่เต่างอย เป็นยูทูปเบอร์ที่มาทำข่าวบ้านกกกอก ของลุงพล แต่ใช้ชื่อเต่างอยไลฟ์สดออกสื่อ ทำให้ชาวเต่างอยเสื่อมเสียเพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งจากการประชุมเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 ได้ข้อสรุปว่าขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายลบคลิปที่ไลฟ์สดพร้อมกับให้ยุติเรื่องราวที่เกิดขึ้น และให้ไปขอขมาเจ้าคณะอำเภอเต่างอยอีกด้วย หากยังไม่ยุติจะใช้มาตรการทางสังคมคือไม่คบค้า ไม่ให้อยู่ ไม่ขายของให้กับยูทูปเบอร์รายนี้ หรือไม่ก็ใช้มาตรการทางกฎหมาย มีการบันทึกภาพและเสียงในระหว่างการประชุม แต่ปรากฏว่ายังมีการไลฟ์สดด่าผู้เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ ฝ่ายปกครอง ผู้ใหญ่บ้าน นักข่าว ซึ่งเป็นการผิดสัญญาและข้อตกลง

ความคืบหน้าของเรื่องนี้ นายสุรชัย ยูทูปเบอร์ช่องบูมน้อยร้อยเอ๋ด พร้อมทีมงาน ได้เดินทางมาที่ อบต.เต่างอย เพื่อขอหลักฐานภาพและเสียงที่บันทึกในวันประชุม เพื่อไลฟ์สดนำไปบอกกล่าวให้ fc ที่ทีผู้ติดตามกว่า 80,000 คน  ได้รับทราบว่ายูทูปเบอร์หยาดเพชร ได้ทำผิดข้อตกลง ได้ไลฟ์สดด่าคนอีก พร้อมทั้งขอเรียกร้องให้ชาวเต่างอย ออกมาต่อต้านยูทุปเบอร์ที่ทำให้เต่างอยเสื่อมเสีย และเตรียมขับไล่ให้พ้นจากอำเภอเต่างอย แต่ถ้ายูทูปเบอร์รายนั้นกลับปอยเปตตามที่ประกาศไว้ในไลฟ์สด ตนก็จะยุติทันที

ภาพ-ข่าว วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร