นายพร้อมพงศ์ พันเลิศ ผู้ใหญ่บ้านบ้านสบสอย ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ได้รับแจ้งจากนายหว่าจิ่ง (ไม่ทราบนามสกุล) ราษฎรบ้านในสอย ตำบลปางหมู ให้ช่วยสกัดรถยนต์ต้องสงสัยยี่ห้ออีซูสุ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ยต-3192 ที่ขับรถชนรั้วบ้านของตนเองจนพังยับแล้วขับหลบหนีออกจากหมู่บ้านไปตามเส้นทางบ้านในสอย-บ้านสบสอย โดยมีรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านขับติดตามมาติดๆ

 หลังได้รับแจ้งแล้วนายพรอ้มพงศ์ จึงแจ้งไปยังตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองแม่ฮ่องสอน ฝ่ายปกครองและตำรวจตระเวนชายแดนที่ 336 แม่ฮ่องสอน ออกติดตามไปยังเส้นทางที่ได้รับแจ้ง จนกระทั่งรถยนต์ผู้ต้องสงสัยได้มาจนมุมที่ด่านตรวจของกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดนที่ 1 ในสภาพที่ด้านหน้ารถยนต์ข้างซ้ายพังยับ ไฟหน้าแตกและยังมีไม่ไผ่ซึ่งเป็นรั้วของชาวบ้านที่เพิ่งชนมาเสียบติดมาด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามก็ให้การไม่รู้เรื่องแถมมีกลิ่นสุราหึ่ง เมื่อตรวจค้นที่ในที่นั่งแค๊ปของรถก็พบขวดน้ำดื่มบรรจุในถุงพลาสติกอยู่อีก 300 ขวด ตอนแรกอ้างว่าเป็นขวดน้ำดื่ม แต่เจ้าหน้าที่เห็นผิดปกติ เพราะน้ำดื่มแต่ไม่มียี่ห้ออะไร จึงเปิดออกพิสูจน์ก็พบว่าเป็นสุราขาวบรรจุขวดพลาสติกเพื่อพรางสายตาเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงได้นำ ตัวพร้อมของกลางมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองแม่ฮ่องสอน พร้อมแจ้งเจ้าที่สำนักงานสรรพสามิตจังหวัดแม่ฮ่องสอน มาร่วมทำการตรวจสอบอย่างละเอียด

 สำหรับหนุ่มใหญ่ (ชายเสื้อขาว) ที่เมาแอ๋รายนี้คือ นายเลาต่อ แซ่เฮ้อ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1 หมู่ที่ 5 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เมื่อตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอร์ก็พุ่งสูงถึง 151 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จากการสอบสวนก็ยอมรับว่าตนเองไปซื้อสุราขาวมาจากโรงงานผลิตสุราชุมชนแห่งหนึ่งที่ในหมู่บ้านในสอย โดยเป็นการซื้อหลังโรงงานที่ไม่ต้องติดอากรแสตมป์ของสรรพสามิตในราคาที่ถูกกว่า แต่ดื่มมาพอสมควรก่อนที่จะขับรถกลับแล้วมาพุ่งชนรั้วของชาวบ้าน ด้วยอาการตกใจจึงพยายามขับหลบหนีจนมาถูกขับกุมดังกล่าว

 ทางด้านนายหว่าจิ่ง (ชายเสื้อดำ) กล่าวว่า ขณะที่ตนเองนั่งพักผ่อนอยู่ในบ้านก็ได้ยินเสียงรถยนต์ชนที่รั้วหน้าบ้านได้ยินเสียงดังลั่น เมื่อออกมาดูก็พบว่ารั้วหน้าบ้านพังเป็นแนวยาวกว่า 2 เมตร และรถยนต์คันนี้กำลังขับถอย จึงได้วิ่งไปบอกว่ารั้วพังเสียหายให้ลงมาคุยกันก่อน แต่เจ้าของรถมีอาการเมาไม่ยอมฟังเสียงพยายามถอยรถแล้วขับหลบหนีอย่างรวดเร็ว ทำเหมือนไม่ใช่บ้านคน จนเองจึงได้ขับรถจักรยานยนต์ติดตามแล้วโทรศัพท์หาผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยสกัดจับได้ดังกล่าว

 ด้านพนักสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองก็ได้แจ้งข้อหากับนายเลาต่อ ข้อหาเมาแล้วขับจนทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหายและหลบหนี มีและครอบครองสุราขาวที่ไม่ได้รับอนุญาต พร้อมนำตัวเข้าห้องขังเตรียมส่งดำเนินคดีต่อไป ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสรรพสามิตจังหวัดแม่ฮ่องสอน เตรียมเข้าตรวจสอบโรงงานผลิตสุราชุมชนที่ลักลอบขายสุราเถื่อนที่ไม่เสียภาษีหรือติดอากรแสตมป์ตามที่กฎหมายกำหนดต่อไปด้วย

ภาพ-ข่าว วิรัตน์  นันทะพรพิบูลย์  จ.แม่ฮ่องสอน