จากกรณีที่มีคนร้ายตระเวนลักทรัพย์ เป็นเหล็กราวกันตก สแตนเลส ซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการคือเทศบาลนครตรัง ไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งทรัพย์สินที่ถูกลักประกอบด้วย เสาไฟ สายไฟ หลอดไฟ เหล็กกันตกราวสแตนเลต หัวหมุดเหล็กหล่อและกระถางเหล็กแขวนต้นไม้ตลอดคลองห้วยยางที่มีการปรับปรุงภูมิทัศฯเมื่อหมายปีก่อน พลเมืองดีที่มีบ้านเรือนริมคลองห้วยยาง ในเขตเทศบาลนครตรัง ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง สุดทนกับพฤติกรรมของคนร้ายเข้าทำการลักทรัพย์ไม่เว้นแต่ละวันทำให้ทรัพย์สินของทางราชการสูญหายไปเป็นจำนวนมาก คนร้ายได้ทำกันเป็นขบวนการลักทรัพย์ไปเกือบหมดแล้ว มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท ได้แจ้งให้ผู้สื่อข่าวทราบ ชาวบ้านบอกว่าคนร้ายมาลักทรัพย์มาร่วมปีแล้ว แต่ผู้บริหารเทศบาลนครตรัง ไม่เคยมาดูแลในเรื่องนี้ หรือไม่ทราบ
หลังมีการโสต์ในเฟสบุ๊ค พ.ต.อ.เชื้อชาติ เยาดำ ผกก.สภ.เมืองตรัง สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจลงตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที นายกัมปทนาท อินทองมาก อดีตสมาชิกเทศบาลนครตรัง และชาวบ้าน พร้อมผู้สื่อข่าวเดินเท้าเข้าไปคลองห้วยยางเข้าด้านหลังโรงพยาบาลตรังชาตะ ถนนห้วยยอด ในเขตเทศบาลนครตรัง พบว่าเหล็กกันตกขนาด ขนาดความยาว 2 เมตร กว้าง 1 เมตร ถูกคนร้ายลักถอดออกไปทั้งฝั่งซ้ายและขวา ที่พบฝั่งซ้ายถูกลักไปเป็นจำนวนมาก จำนวนไม่แน่นอนเพราะยังไม่มีการสำรวจความเสียหาย
สำนักงานเทศบาลนครตรังได้ใช้งบประมาณร่วม 400 ล้านบาทในการปรับปรุงภูมิทัศน์ริมคลองห้วยยางเมื่อหลายปีก่อน หลังการก่อสร้างแล้วเสร็จใช้งานไปได้ไม่ได้คนร้ายก็เริ่มทำการลักหัวหมุดเหล็กหล่อที่มีราคาแพงสวมที่เสากันตกจำนวนมากเริ่มหายไป ในเวลาต่อมาเสาไฟฟ้า หลอดไฟ สายไฟฟ้าหายไปหมด เมื่อกลางคืนมืดเพราะไม่มีไฟส่องสว่าง คนร้ายก็เริ่มทยอยลักราวกันตกซึ่งเป็นแผงเหล็กขนาดใหญ่ เป็นเหล็กสแตนเลส ความยาว 2เมตร กว้าง 1 เมตร มาตลอดซึ่งต้องใช้คนยกอย่างน้อย 2 คนจึงจะยกไหว ก่อนที่พลเมืองดีจะทนเห็นพฤติกรรมคนร้ายไม่ได้ก็แจ้งว่าคนร้ายรื้อราวกันตกและเสาไฟฟ้าด้านข้างโบสถ์คริสตจักรตรังไปอีก
ในเวลากลางคืนตรงคลองห้วยยางมืดเพราะไม่มีไฟส่องสว่าง เสาสาย เสาไฟหลอดถูกลักขโมยไป จึงเป็นช่องทางให้คนร้ายหรือโจรเข้าทำการลักทรัพย์ ราวกันตก หัวหมุดเสาเหล็กหาย สายเสาไฟฟ้าหายไป ส่วนบริเวณที่คลองห้วยยางหน้าโรงรับจำนำพบว่ามีไฟส่องสว่าง ส่วนที่บริเวณสามแยกวัดกุฎ ถนนเพลินพิทักษ์ก็พบว่ามีไฟส่องสว่างราวกันตกไม่หายแต่หมุดหัวเสาหายไป ส่วนที่จุดสุดท้ายคือบริเวณถนนราชดำเนิน ซอยร้านสิริบรรณไปที่คลองห้วยยางบริเวณมีไฟส่องสว่างบ้านเรือนติดกันจำนวนมาก พบว่า ราวกันตก หัวหมุดเสาราวกันตกไม่หายไปยังมีครบเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์
ประชาชนเรียกร้องไปยังผู้บริหารเทศบาลนครตรังและตำรวจ แก้ปัญหาเรื่องนี้โดยด่วน ต่อความเสียหายที่ผู้บริหารเทศบาลปล่อยปละละเลย เข้าขั้นละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ไม่ตรวจตราสอดส่องดูแล ทรัพย์สินทางราชการ ปล่อยให้คนร้ายทำการลักทรัพย์สินที่เป็นสาธารณะประโยชน์ของประชาชนใช่ร่วมกัน มานานนับปี จึงเรียกร้องให้ผู้บริหารเทศบาลตรวจสอบข้อเท้จจริงในเรื่องนี้โดยด่วน
นายกัมปนาท อินทองมาก บอกว่า คนร้ายไม่กลัวเพราะไม่ถูกจับหรือดำเนินคดี ผู้บริหารเทศบาลจะต้องสำรวจและร้องทุกข์กับตำรวจให้จับคนร้ายมาดำเนินคดี ทรัพย์สินทางราชการที่ประชาชนใช้ร่วมกันโทษหนัก หากพบมีการลักทรัพย์ในเวลากลางคืนอีกด้วย โทษจำคุกสูงถึง 7 ปี มูลค่าความเสียหายจำนวนมาก เฉพาะที่ใช้งบสร้างไปกว่า 400ล้านบาทในครั้งนั้น เทศบาลฯต้องแจ้งความ แล้วให้ตำรวจตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่มีจำนวนมากในเขตเทศบาล ตนเชื่อว่าจับคนร้ายได้อย่างแน่นอน ครั้งที่ตนเป็นสมาชิกฯ ก็นำเรื่องนี้พูดฝนสภาแต่ผู้บริหารทุกสมัยก็เพิกเฉย
ภาพ-ข่าว สุนิภา หนองตรุด จ.ตรัง