พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 สั่งการ พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว พร้อมด้วย พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และ ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว กวาดล้างยาเสพติดโดยเข้าจับกุม นายวิชญะ อายุ 26 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 51 เม็ด อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และผลตรวจปัสสาวะเป็นพบเสพยาเสพติด สอบสวนรับว่า เคยถูกจับกุมในข้อหายาเสพติดแล้วยังไม่มีงานทำจึงไปรับยาเสพติดจากผู้ค้าอีกรายในพื้นที่ อ.เขาฉกรรจ์ เพื่อเอามาไว้จำหน่ายให้กับกลุ่มนักเสพและส่วนหนึ่งเก็บไว้เสพเอง ส่วนปืนอ้างว่าเป็นของบิดาที่เสียชีวิตไปแล้วโดยไปยืมเพื่อนมาและยังไม่ได้คืนเจ้าของ ส่วนเงินที่ได้มาไว้ใช้สอย เที่ยวเตร่ จนท.จึงแจ้งข้อหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า)ไว้ในความครอบครองเพื่อการค้าโดยผิดกฎหมาย , มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท1(เมทแอมเฟตามีน)โดยผิดกฎหมาย 

ตำรวจชุดจับกุมได้ขยายผลจากคำให้การของนายวิชญะ ไปที่บ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ อ.เขาฉกรรจ์ เข้าจับกุม นายสุรศักดิ์ อายุ 31 ปี อาศัยอยู่ในบ้านพร้อมพบของกลางยาบ้า จำนวน 602 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องนอน สอบถามรับสารภาพว่าได้จำหน่ายยาเสพติดให้กับนายวิชญะ ไปจริงเมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา อีกทั้งยังพบประวัติเคยถูกจับกุมในข้อหายาเสพติด แล้วให้การเพิ่มว่าได้ไปรับยาเสพติด มาจากเอเย่นต์รายใหญ่อีกทอดหนึ่งที่ อ.อรัญประเทศ ด้าน ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า)ไว้ในความครอบครองเพื่อการค้าโดยผิดกฎหมาย

  ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว จึงนำกำลังขยายผลไปยังพื้นที่ อ.อรัญประเทศ พบนายกรองกมล อายุ 38 ปี และ น.ส.ราตรี อายุ 24 ปี อยู่ในบ้านหลังดังกล่าว จึงทำการตรวจค้นพบของกลางยาบ้า จำนวน 533 เม็ด ยาไอซ์ หนัก 0.81 กรัม เครื่องชั่งดิจิตอล 1 เครื่อง และใบแจ้งผลตรวจ พบว่าเสพสารเสพติด 2 ชุด  โดยให้การรับสารภาพว่า รับยาเสพติดมากจากนางบุ๋ม ไม่ทราชชื่อสกุลจริงจากพื้นที่ อ.กบินทรบุรี จ.ปราจีนบุรี รับมาครั้งละ 3 ถุง(ถุงละ 200เม็ด) ในราคาถุงละ 4,000 บาท และจะส่งต่อให้ผู้ค้ารายย่อยถุงละ 4,500 บาท และยังให้ข้อมูลเครือข่ายยาเสพติด ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตะรวบรวมและจะเร่งขยายผลกวาดล้างจับกุมต่อเนื่องเพื่อลดการเกิดปัญหาจากภัยสังคมที่มียาเสพติดเป็นสาเหตุหลัก  หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป…

ภาพ-ข่าว นายยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว