จากกรณี เกิดพายุฝนหลงฤดูพัดถล่มพื้นที่ในจังหวัดกาฬสินธุ์ติดต่อกัน 3 วัน ซึ่งเป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยวผลผลผลิตข้าว ส่งผลให้นาข้าวที่ชาวนาส่วนใหญ่กำลังเก็บเกี่ยวผลผลิต ต้องได้รับเคราะห์ซ้ำกรรมชัดอีกระลอก ซึ่งก่อนหน้านี้ ชาวนาต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายจากซื้อปุ๋ยหว่านข้าวที่มีคาราสูงกว่าเดิมเป็น 3 เท่า เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิต ต้องว่าจ้างรถเกี่ยวข้าวมาเแยวให้ราคา 800-900 บาทต่อไร่ เพื่อเร่งเก็บเกี่ยวข้าวที่กำลังสุกได้ที่ แต่ต้องมาเจอผลกระทบจากพายุฝนถล่มซ้ำ ส่งผลให้ข้าวที่กำลังเก็บเกี่ยวถูกน้ำฝนท่วมขังเมล็ดข้าวที่สุกจนเน่าเสียหาย ต้องเร่งมือเก็บกู้ข้าวขึ้นตากที่สูงตามคันนา

นางมะลัยพร กั้วสิทธิ์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/4 บ้านคำยิ่งหมี ต. นามน อ. นามน จ. กาฬสินธิ์ ทำนาปลูกข้าวเนื้อที่ 9 ไร่ ในช่วงที่กำลังเก็บเกี่ยว ฝนหลงฤดูถล่มลงมาอย่างหนัก นาข้าวได้รับความเสียหายจำนวน 5 ไร่ ต้องเร่งมือเก็บกู้ข้าวขึ้นที่สูงนำมาวางตากบนคัน เพื่อตากแดดให้แห้งก่อนที่เมล็ดข้าวจะเน่าเสีย แต่ก็ยังเป็นกังวน ว่าจะมีฝนหลงฤดูตกลงมาอีกหลายวัน ด้าน นายสาคร พินิจการ  อายุ 55 ปี เกษตรกรปลูกมันสัมปะหลังอายุสั้น ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์  เปิดว่า นาข้าวที่เก็บเกี่ยวแล้ว แต่ถูกฝนถล่มก็จะนำเข้าไปตากแดดในหมู่บ้าน ส่วนข้าวที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวจะต้องชลอการเก็บเกี่ยวออกไปก่อนรอให้มรสุมหมดค่อยมาเก็บเกี่ยวใหม่ได้ นายสาคร ยังให้สัมภาษณ์ต่ออีกว่า ฝนหลงฤดูนับว่าเป็นความโชคดีกับแปลงปลูกมันสัมปะหลังอายุสั้น เพราะน้ำฝนจะทำให้ดินชุมชื่น มันสัมปะหลังโตไว ได้ผลผลิตดีมีราคา

ซึ่งหลังเก็บเกี่ยวข้าว ตนได้ปรับเปลี่ยนจากการทำนาปรัง มาเป็นปลูกมันสัมปะหลังอายุสั้นแทน โดยใช้ระยะเวลาปลูกมันสัมปะหลังเพียง 4 เดือน ก็สามารถเก็บผลผลิตได้ เมื่อถึงฤดูทำนาก็สามารถ ไถกลบทำนาข้าวต่อได้เลย

ภาพ-ข่าว อาทิตย์ จ.กาฬสินธุ์