จากกรณีสองตายายเกาะเกร็ดวิ่งหนีตายเกือบถูกไฟดูดเสียชีวิตหลังจากฝนกระหน่ำเมืองนนท์ตกหนักนานกว่า 3 ชั่วโมง ทำให้น้ำท่วมสูงจนแรงดันน้ำทำฝาบ้านระเบิดพังน้ำทะลักเข้าบ้านสองตายายจมทั้งหลังต้องไปอาศัยนอนศาลาวัด ไร้หน่วยงานช่วยเหลือเยียวยา เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ต.ค.65 เวลา 21.11 น. ภายในบ้านเลขที่ 72/3 ม.5 ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

พระครูนนทกิจโกศล เจ้าคณะอำเภอไทรน้อย เจ้าอาวาสวัดอ่วมอ่องประชานฤมิตรพร้อมตัวแทนจากบริษัท เพาเวอร์ไดร์ฟ ซิสเต็ม จำกัด ลงเรือนำข้าวสารอาหารแห้งและปัจจัยจำนวน 9,000 บาท มอบให้นางวันดี ตันดิลก อายุ 68 ปี และนายไมตรี อินทนาม อายุ 72 ปี สองสามีภรรยาเจ้าของบ้านเลขที่ 72/3 ม.5 ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังจากบ้านพังได้รับความเสียหาย ครอบครัวกว่า 8 ชีวิตไร้ที่อยู่ ไร้หน่วยงานช่วยเหลือเยียวยา

พระครูนนทกิจโกศล กล่าวว่า หลังจากทราบข่าวสองตายายถูกผลกระทบจากน้ำท่วมจนฝาบ้านพังได้รับเสียหาย และคณะสงฆ์จังหวัดนนทบุรีโดยพระเดชพระคุณพระราชนันทมุนี และพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระอุดมสิทธินายก โดยมีนโยบายช่วยเหลือญาติโยมที่เดือดร้อน โดยวันนี้จึงเชิญชวนญาติโยมจากบริษัท เพาเวอร์ไดร์ฟ ซิสเต็ม จำกัด ทั้ง 2 ท่านมาช่วยเหลือโดยมีถุงยังชีพข้าวสารอาหารแห้ง และปัจจัยจำนวน 9,000 บาท ที่ได้รับเมตตาจากพระอุดมสิทธินายก พระมหาวัฒนา พระครูสุดธรรมมาพิวัฒน์ และตัวฉันเอง และญาตโยม ร่วมกันบริจาคทรัพย์ให้กับสองตายายให้ซ่อมบ้าน และจับจ่ายใช้สอยในช่วงขัดสนตอนนี้อยู่ จึงอยากเชิญชวนญาติโยมทุกคนให้ช่วยเหลือกันในยามมีทุกข์ภัย รักสามัคคีกัน ในวันนี้จึงเดินทางมาพบสองตายายด้วยตนเองเพื่อให้ทั้งสองหายกังวนจิตหายกังวลใจที่ได้รับผลกระทบ ทำใจให้สงบขึ้นและมีความสุขสบายใจเพราะทางคณะสงฆ์ไม่ทิ้งประชาชน

นางวันดี กล่าวว่า ตอนนี้ตนกับสามีก็ยังไม่มีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่งอาศัยอยู่กับชาวบ้านที่ใจบุญ ลูกๆนอนที่ร้านชำ และศาลาวัด ตอนนี้สามีตนก็ทำงานไม่ได้เพราะน้ำท่วม วันนี้ต้องขอกราบขอบคุณทางเจ้าอาวาสวัดอ่วมอ่องประชานฤมิตร อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ที่เดินทางมาช่วยเหลือมอบถุงยังชีพและปัจจัยมาช่วยเหลือในเบื้อต้น ในขณะที่หน่วยงานในพื้นที่ไม่เคยมาพูดคุยหรือเหลียวแล

ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต จ.นนทบุรี