ที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด สถานีหลักสี่ โครงการฝากเลี้ยง 120 โรงเรือน ถนนสกลทวาปี เขตเทศบาลนครสกลนคร พล.ต.ต.สันธาน อินทรจักร ผบก.ภ.จว.สกลนคร พร้อมด้วย พ.ต.อ.โชคชัย อินทะนิน รอง ผบก.ภ.จว.สกลนคร พ.ต.อ.สถาพร รอดโพธิ์ทอง รองผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 (CCID3) พ.ต.อ.พุฒินันท์ อำพันธ์ ผกก.สภ.เมืองสกลนคร นายประยงค์ ภูดินทราย เกษตรจังหวัดสกลนคร  นายฉัตรชัย  ศรีเฉลา เกษตรและสหกรณ์จังหวัดสกลนคร  จนท.ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี  ชุดสืบสวน สภ.เมืองสกลนคร  ผู้เชี่ยวชาญด้านเห็ด  ได้เข้าอายัดและเก็บรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมภายในฟาร์มเห็ด เพื่อวิเคราะห์เกี่ยวกับการเพาะเห็ดชนิดต่างๆ ตามที่บริษัทได้กล่าวอ้าง  นำไปสรุปลงในสำนวนคดีให้สมบูรณ์ และรอบด้าน  โดยเมื่อเข้ามาด้านในจะพบโรงเรือนเพาะเห็ดสีขาว เรียงเป็นแถวยาวเข้าไป  ด้านหน้าโรงเรือนบางหลังมีป้ายชื่อกำกับไว้    ภายในโรงเรือนมีทั้งโรงเรือนที่มีเพียงชั้นวาง  และโรงเรือนที่มีก้อนเชื้อเห็ดเก่าขึ้นราคละกันไป   ส่วนด้านในสุดพบอาคารซึ่งเป็นที่เก็บเห็ดตากแห้งบรรจุถุง  รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการเพาะเลี้ยงเห็ดและการแปรรูป   นอกจากนี้ยังพบกล่องเลี้ยงผึ้งอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งบางกล่องยังมีผึ้งอยู่ด้านใน  ส่วนโรงเห็ดพบว่ามีกว่า 120 โรงเรือน แต่ละโรงมีการเปิดแอร์และติดไฟให้กับเห็ด

ขณะที่  พ.ต.อ.โชคชัย อินทะนิน  รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร   กล่าวว่า   สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ได้มอบหมายให้กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี   ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร   รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง   เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง   และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป  โดยในวันนี้ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นเกษตรและสหกรณ์ จ.สกลนคร   เกษตรจังหวัดสกลนคร  หน่วยงานวิจัยพืช  และหน่วยงานด้านวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับพืชเกษตร  ลงมาตรวจสอบในพื้นที่   โดยดูประเด็นที่สงสัยเรื่องการชวนเชื่อ ว่าสามารถปฏิบัติได้จริงไหม ผลตอบแทนเป็นไปตามที่กล่าวอ้างหรือไม่  ซึ่งกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี   ได้รับเป็นคดีเพื่อสอบสวน  และสถานที่แห่งนี้ได้ถูกอายัดไว้เพื่อตรวจสอบข้อมูลให้ละเอียดรอบด้าน   สรุปเป็นสำนวนคดีให้สมบูรณ์ต่อไป ห้ามเคลื่อนย้ายและจะต้องได้รับอนุญาตกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน  รายงานข่าวแจ้งวา มีผู้ใช้เฟสบุ๊กแชร์แชทลับของผู้บริหารฟาร์มเห็ดได้โพสต์ กรณีติดต่อให้ช่วยพาหนี โดยระบุว่า 2 คน ค่าใช้จ่ายคนละ 7 หลัก โดยจะขนเงินไปด้วยประมาณ 300 ล้านบาท แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นแชทหลอกตำรวจให้หลงทางหรือไม่  อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ตำรวจได้จับกุมเลขา CEO แล้ว เช้าวันนี้ยังจับกุมเพิ่มอีก 2 ราย คือ วันนี้ 2 ราย น.ส.อนัญญา กับ น.ส.ศิลป์ศุภา  นำตัวมาให้ พล.ต.ต.รณชัย จินดามุก งผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ร่วมสอบปากคำที่ ภ.จว.สกลนคร

ภาพ-ข่าว วัฒนะ แก้วก่า / สกลนคร