ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า นายรุ่งโรจน์ สาโหด  พร้อม  นส.ณชนก พรหมสุวรรณ เข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อนายกสมาคมผู้สื่อข่าวจังหวันครศรีธรรมราชพ่อแม่ร้องตามหาลูกสาววัย 14 ถูกนายจ้างพาตัวหายแจ้งความตามหาพบเบาะแสไปหลบอยู่ที่พัทลุงเหตุการณ์พ่อแม่เข้าร้องตามหาบุตรสาวอายุเพียง 14 ปีถูกนายจ้างหนุ่มพาหายตัวไปจากบ้านในท้องที่อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนคร แต่เรื่องราวกลับไม่คืบ

นายหนึ่ง อายุ 43 ปี นางเกศ อายุ 35 ปี พ่อและแม่ของ เด็กหญิง อายุ 14 ปีอาศัยอยู่ย่านซอยรัชฎาการาจ ตำบลคลัง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช   ได้เข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากศูนย์ข่าวนคร24ชม สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช และนายไสว รุยัน ผู้สื่อข่าว ประจำพัทลุง เพื่อขอให้ติดตามลูกสาว อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ที่ทั้งสองระบุว่าได้ถูกนายจ้างชื่อ “หมู” อายุประมาณ 30 ปี พื้นเพเดิมเป็นชาวพัทลุง ได้นำตัวเด็กหญิงอายุ 14 ลูกสาวหายตัวไป โดยไม่ทราบว่าไปอยู่ในพื้นที่ใด แต่เบาะแสล่าสุดนั้นทราบว่าได้ไปอาศัยอยู่ในย่านอำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง  ซึ่งได้แจ้งเจ้าหน้าที่ไปแล้วพร้อมทั้งมีหลักฐานในการแชทมาขอความช่วยเหลือจากลูกสาว แต่ไม่มีความคืบหน้าใดจนกังวลถึงความปลอดภัยอย่างมาก

นายหนึ่ง และนางเกศ สองสามีภรรยา บิดาและมารดาของเด็กหญิงอายุ 14 ปี รายนี้ได้เล่าให้ฟังว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเริ่มจากวันที่ 10 กรกฎาคม 2565 ทราบว่าลูกสาวได้หายตัวไปแต่เข้าใจว่าไปทำงานอยู่กับบ้านของนายจ้างของครอบครัวตนเอง จนกระทั่งทราบว่านายจ้างคือนายหมู อายุ 29 ปี ซึ่งอยู่บ้านห่างกันไปราว 10 นาทีเท่านั้นเป็นผู้พาตัวไป จึงไปติดตามที่บ้านของนายหมูแต่ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน จนกระทั่งวันที่ 12 กรกฎาคม ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช มีพนักงานอบสวน สภ.เมืองเป็นผู้รับแจ้งความ มีการสอบปากคำไปแต่ไม่ได้รับเอกสารใดๆกลับมา จนกระทั่งวันที่ 14 กรกฎาคม ได้รับแชททางโทรศัพท์จากลูกสาวขอความช่วยเหลือให้มาช่วยพากลับบ้านด้วยเกรงกลัวน้าหมูที่มีอารมย์ร้าย พร้อมกันนั้นได้ปักหมุดแผนที่มาให้ ส่วนโทรศัพท์นั้นทราบว่าได้ขโมยโทรศัพท์จากเพื่อนคนหนึ่งของนายหมูมาใช้ แต่ภายหลังไม่สามารติดต่อใดๆได้อีก

สองสามีภรรยายังระบุด้วยว่าหลังจากที่ได้รับแชทขอความช่วยเหลือ ได้นำหลักฐานทั้งหมดไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อเร่งติดตามหาตัวลูกสาว ซึ่งได้มีการพิมพ์เอกสาร แล้วบอกว่าจะแจ้งไปให้ทางตำรวจพัทลุง ไปติดตามแต่หลังจากวันนั้นจนถึงวันนี้กลับไม่มีความคืบหน้าใดๆจากเจ้าหน้าที่ จนไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว

ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นสองสามีภรรยาระบุว่าเหมือนถูกกัดดันอย่างหนักจากครอบครัวของฝ่ายชายเนื่องจากเป็นนายจ้างของครอบครัวตนเอง ฝ่ายชายเป็นคนอารมย์ร้ายเคยมาอาละวาดที่บ้าน ก่อนหน้านี้ราว 2 เดือนเศษ ได้บอกว่าจะพาลูกสาวของตนเองไปทำงานทำขนม งานบ้าน ซึ่งเป็นรายได้พิเศษของลูกในการไปเรียนหนังสือ แต่กลับพาไปเข้ารีสอร์ทแห่งหนึ่งในตำบลปากพูน ตนมาทราบภายหลังจากเห็นความผิดปกติของลูกจึงคาดคั้นถามจนทราบว่าลูกถ่วงล่วงละเมิดแล้ว แต่หลังจากนั้นได้มีการเข้ามาพูดคุยทั้งจากแม่ของฝ่ายที่นำลูกไป รวมทั้งนายหมูเอง อ้างว่าจะมาคุยให้เป็นเรื่องเป็นราวและจะมาสู่ขอแต่ทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันที่เกิดขึ้นกับตนเองและครอบครัวอย่างรอบด้าน และท้ายที่สุดจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากสื่อรวมทั้งจะดำเนินคดีกับนายหมู ให้ถึงที่สุด ส่วนฝ่ายชายนั้นเป็นคนที่เดิมนั้นมีภรรยาอยู่แล้ว มีลูก 2 คน แต่ทราบว่าภรรยาได้เลิกราและหนีไป แต่ที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือขอให้เจ้าหน้าที่ได้ติดตามลูกกลับมาให้เร็วที่สุดเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

ล่าสุด พ่อแม่ น้องวัย14 ปี ได้เดินทางมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าพบ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดพัทลุง เพื่อประสานขอความช่วยเหลือ ก่อนที่จะนำพ่อแม่ไปพบ พ.ต.ต.จำเริญอินทร์แก้ว  หน.ชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพลมือปืนรับจ้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการพิเศษพัทลุง ฉก.เสือดำ  ชุดดสืบสวน สภ.เขาชัยสน ลงพื้นที่ ต.จองถนน องเขาชัยสน จ.พัทลุง หลังทราบแหล่งกบดานบ้านที่ นายหมู พาเด็กวัย14 ปีมาขังและมัดไว้ และกระทำอนาจาร จนสามารถช่วยเหลือน้องวัย14 ปีได้ แต่ นายหมู ได้วิ่งหลบหนีไป

ซึ่งต่อมาศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ออกหมายจับที่ 255 /2565 ลงวันที่ 19 กรกฎาคม 65 จับกุมตัวนายธีระพงษ์ หรือหมูกระทำความผิดฐาน พรากเด็กอายุ ไม่เกิน15 ปี  ไปเสียจากบิดามารดา  ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลโดยปราศจากเหตุอันควรต่อมาหลังศาลอนุมัติหมายจับ ชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพลมือปืนรับจ้างผู้ร้ายสำคัญ สตช.นำโดย พ.ต.ต.จำเริญอินทรแก้ว   หัวหน้าชุด พร้อมชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง  หน่วยปฎิบัติการพิเศษพัทลุง ชุดฉก.เสือดำ และชุดสืบสวนตำรวจภูธรเขาชัยสน จ.พัทลุง พบเบาะแสว่า นายธีระพงษ์ นุ้ยแหลม หรือน้าหมู อายุ 29 ปี  ยังคงหนีกบดานตามบ้านญาติ และพื้นที่ สวนยางพารา ในพื้นที่ ม.1 ต.จองถนน อ.เขาชัยสน  เจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังค้นปูพรหม ตามสวนยางพารา และกระท่อมในสวนยาง พร้อมทั้งรีสอร์ท เก่าในพื้นที่ใกล้เคียง แต่ยังไม่เจอตัว พร้อมพบพ่อของน้าหมู แจ้งให้รีบติดต่อเข้ามอบตัว ซึ่งหากยังให้ที่พักพึงหากเจ้าหน้าที่สืบทราบจะดำเนินคดีด้วยเช่นกัน

ภาพ-ข่าว ไสว รุยันต์ จ.พัทลุง