พัทลุง  อุปนายกสามาคมอนุรักษ์นกอีแอ่นธรรมชาติภาคใต้ ระบุด้วยสัญญาสัมปทานและกฏหมายการส่งออกทำให้นกอีแอ่นธรรมชาติอาจสูญพันธุ์ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง สมาคมอนุรักษ์รังนกอีแอ่นธรรมชาติในภาคได้ ระบุรังนกอีแอ่นในธรรมชาติในพื้นที่ภาคใต้ ถือว่าเริ่มเข้าขั้นวิกฤติ เนื่องจากปัญหาการขโมยรังนก ในพื้นที่ที่ว่างสัมปทาน โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปดูและไม่สามารถปกป้องผลประโยชน์ของชาติได้ ส่งผลให้อัตราการรอกของพ่อแม่พันธุ์ ถูกตัดวงจรชีวิตลง  ทางสมาคมอนุรักษ์รังนกอีแอ่นธรรมชาติกังวลในสถานภาพของนกอีแอ่นกินรังในพื้นที่ภาคใต้

โดยนาย สมโภช โชติชูช่วง  อุปนายกสามคมอนุรักษ์รังนกอีแอ่นธรรมชาติภาคใต้กล่าวว่า ปัจจุบัน สถานภาพรังนกอีแอ่นในธรรชาติ ของประเทศไทยโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ในหลายจังหวัดทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน ถือว่าได้ลดลงอย่างอวบงาบ เนื่องจากขาดการดูแลที่ดีและเป็นระบบ  โดยเฉพาะพื้นที่ที่ไม่มีผู้สัมปทาน ที่มีเจ้าหน้าที่รักดูแล ไม่ถูกวิธีทำให้อัตราการขยายพันธุ์ของนกอีแอ่นลดลง  ซึ่งเสี่ยงต่อการสูนพันธุ์ของนอกอีแอ่นธรรมชาติ

นายสมโภช โชติชูช่วง ยังกล่าวอีกว่า  พื้นที่อาศัยของนกอีแอ่น ที่มีการสัมปทาน นั้นตนมองว่านับเป็นการดูแลและเป็นการอนุรักษ์นกได้ดีกว่า เพราะการจัดเก็บรังนกไปตามระบบ และมีข้อกฎหมายควบคุม ในการเพิ่มประชากรนกในแต่ละปี  แต่กลับกันพื้นที่ที่ไม่มีสัมปทาน อัตราการรอดของนกนั้นแทบน้อยมาก เนื่องจากการเข้าไปเก็บแบบผิดวิธีซึ่งตรงนี้ทางสมาคมอนุรักษ์รังนกอีแอ่นธรรมชาติภาคใต้ เป็นห่วงต่อสถานภาพนกในธรรมชาติ อีกอย่างหนึ่งในพื้นที่ว่างเว้นสัมปทานรังนก ที่มีการเปิดประมูลไปหลายรอบ และหลายปี  แต่ยังไม่มีผู้เข้ามาประมูลนั้น ตนเชื่อว่า สาเหตุเกิดจากการตั้งราคากลางสูง และมีเงื่อนไขแนบท้ายสัญญามากเกินไป  ประกอบกับ หากมีผู้ประมูลได้เมื่อจัดเก็บรังนก ก็กลับไม่มีราคา เพราะไม่สามารถส่งออกไปยังประเทสจีนได้ มีข้อกฏหมายบังคับ ทำให้ผู้ประกอบการไม่กล้าเสี่ยง  ทำให้ตลาดรังนกของไทยแคบลง จนเป็นเหตุให้นกอีแอ่นในธรรมชาติหายไปจากประเทสไทยได้

ยกตัวอย่างพื้นที่จังหวัดพัทลุง ก่อนหน้านี้ที่เกิดช่องว่างสัมปทาน เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐเฝ้า แต่เจ้าหน้าที่รัฐเป็นคนขโมยเสียเอง ทำให้ลูกนกในรอบนั้นตายเกลื่อนถ้ำซึ่งสงผลให้นกอีแอ่นในรอบหลังบินกลับมาทำรังน้อยลง  ส่วนในพื้นที่จังหวัดอื่นก็เช่นกันอาจจะมีในลักษณะเดียวกัน

ภาพ-ข่าว ไสว รุยันต์ จ.พัทลุง