ที่บ้านเลขที่ 381/6 ม.1 ต.ลานสัก อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ได้พบกับนายตี๋ใหญ่ อายุ 25 ปี ขณะที่ใช้เวลาพักเที่ยงเพื่อเข้ามาดูแลแม่กับน้าชายที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์และโรคประสาทถึงขั้นเล่นอุจจาระของตัวเอง และมาป้อนข้าวป้อนน้ำ และก็ล้างอุจจาระของผู้ป่วยทั้ง 2 คน

นายตี๋ใหญ่ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเช่า อยู่กันเพียง 3 คน มีแม่ มีน้า และก็ตัวผม  โดยก่อนหน้านี้ ก่อนที่แม่บุญธรรมผมจะป่วยเป็นอัมพฤกษ์ แม่เคยเล่าให้ฟังว่าตนเองเกิดอยู่ที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พ่อแท้กับแม่แท้แยกทางกัน แล้วก็นำตัวผมมาฝากไว้กับแม่บุญธรรม จากนั้นก็ได้พาตนเองย้ายเข้ามาอยู่จังหวัดอุทัยธานีตั้งแต่ยังเด็ก จนกระทั่งตอนนี้ผมก็อายุ 25 ปีแล้ว แล้วแม่บุญธรรมก็มาป่วยลง ล่าสุดน้าชายที่ป่วยเป็นโรคประสาทและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้  ก็เป็นน้องชายของแม่บุญธรรมผม ที่ผมต้องดูแลทั้ง 2 คน

และที่สำคัญ ตัวผมเองไม่มีบัตรประชาชน เหลือแค่เพียงใบเกิดที่พ่อกับแม่แท้ๆได้ฝากไว้กับแม่บุญธรรมตอนผมเด็กๆ ซึ่งตัวผมเองอยากได้บัตรประชาชนมาก เนื่องจากต้องมีคนเซ็นการรับรองถึงจะทำได้ ดันแม่บุญธรรมมาป่วยลงเป็นอัมพฤกษ์และน้าชายน้องของแม่ก็มาป่วยเป็นโรคประสาท ซึ่งไม่มีใครเซ็นให้ตนเอง เวลาตนเองไปหาหมอก็ไปหาไม่ได้เพราะไม่มีบัตรประชาชน ทำอะไรก็ไม่ได้อยากวอนให้หน่วยงานช่วยเหลือผมด้วย ตนเองก็ลำบากมาก วันไหนไปทำงานก็ได้ตังเพียงไม่กี่ร้อยบาท ก็ต้องซื้อข้าวสารมาทิ้งไว้ แพมเพิสให้กับแม่และน้า ค่าน้ำค่าไฟ ไหนจะยังค่าบ้านที่เช่าอยู่  แล้วก็ต้องนำเงินที่เหลือ คอยซื้อยาหากตัวเองเจ็บไข้ได้ป่วย วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือผมด้วยโดยติดต่อได้เบอร์  092-9273751

https://youtu.be/P142yAI3RXk

ภาพ-ข่าว นายพชร พัสกุล   สมาคมสื่อมวลชนอุทัยธานี