จากกรณีดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ ทราบว่าผู้เสียหาย เป็นครูอยู่โรงเรียนวัดน้ำลอด ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนไกลความเจริญ ทราบชื่อภายหลังคือ ครูโบว์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุเวลาประมาณ 09.00 น. ตนเองได้มาโรงเรียนตั้งแต่เช้า ในระหว่างที่ตนเองนั่งพิมพ์งานอยู่ก็ได้ยินเสียงรถมาจอด จากนั้นก็ได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินมายืนที่หน้าห้องที่ตนเองกำลังทำงานและได้ขอเข้าห้องน้ำและสอบถามว่าห้องน้ำอยู่ทางไหนตนเองก็ไม่ได้เดินออกไปเพียงแค่ชี้ทางและบอกว่าให้เดินไปทางไหน

จากนั้นตนเองรู้สึกไม่ไว้ใจผู้ชายคนดังกล่าวจึงได้พิมพ์ไลน์ไปยังคุณครูผู้ชายที่ออกไปทานข้าวบริเวณหน้าโรงเรียนว่าให้รีบกลับมา หลังจากนั้นเวลาผ่านไปเวลาประมาณ 20นาที ผู้ชายคนดังกล่าวได้เดินเข้ามาหาตนเองบริเวณจุดที่ตนเองนั่งทำงาน และได้พยายามพูดคุยในระหว่างนั้นตนเองก็ได้พิมพ์ไลน์ไปยังครูผู้ชายอีกว่าให้รีบกลับมา แต่คำที่พิมพ์ไปนั้นก็พิมพ์ผิดพิมพ์ถูกด้วยความกลัว หลังจากนั้นผู้ชายคนดังกล่าวก็ได้ขอให้ตนเองช่วยโอนเงินให้หน่อยโดยยื่นโทรศัพท์ให้โดยบอกว่าทำไม่เป็น  ตนเองก็รับโทรศัพท์มาและบอกว่าโทรศัพท์มันล็อคช่วยใส่รหัสให้หน่อยหลังจากที่ผู้ชายคนดังกล่าวใส่รหัสแล้วเมื่อเปิดมาก็เจอเป็นคลิปโป๊ ตนเองก็ได้โยนโทรศัพท์ลง ผู้ชายคนดังกล่าวก็ได้เข้ามากอดตนเองและพยายามที่จะขมขืน ลวนลามตนเอง โดยตนเองก็ได้ตะโกนให้คนช่วย และพยายามดิ้นออกมา และพยายามเดินถอยออกมาจากในห้องนั้น  จากนั้นก็ได้เห็นว่ามีรถครูผู้ชาย และรถของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านกำลังขับเข้ามาพอดี ตนเองก็ได้รีบตะโกนให้ช่วย

ด้านนายสำรวย รวดเร็ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองได้รับแจ้งจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านว่า มีเหตุคนร้ายพยายามที่จะเข้าไปขมขืนครูที่โรงเรียน และได้ขับรถหลบหนีออกไปทางปากน้ำหลังสวนตนเองจึงได้มาที่เกิดเหตุและได้ประสานไปยังตำรวจในท้องที่ให้ช่วยสกัดจับคนร้ายที่กำลังพยามยามหลบหนี แต่ไม่สามารถจับได้เ โดยหลังจากนั้นประมาณ 3-4 ชั่วโมงได้รับแจ้งว่าได้นำรถไปจอดทิ้งไว้  พร้อมกับถอดป้ายทะเบียนและเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดที่ก่อเหตุและหลบหนี  ซึ่งจากการสอบถามและพยายามหาตัวผู้ก่อเหตุนั้น พบว่าไม่ใช่คนในพื้นที่ แต่เป็นคนที่มาจากที่อื่น และก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 วันได้พยายามก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้มาแล้ว โดยไปเคาะประตูบ้านคนอื่นและหวังจะขมขื่นเช่นเดียวกัน นายสำรวย รวดเร็ว ผู้ใหญ่บ้านกล่าวต่อว่าคนร้ายคงเสพยาจนเสียสติจนทำก่อเหตุแบบนี้ ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ทางผู้นำหมู่บ้านร่วมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้พยายามช่วยกันสอดส่องดูแลเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกเพราะที่ผ่านมาจากการสอบถามคนเก่าคนแก่ในหมู่บ้านไม่เคยเกิดเหตุเช่นนี้จึงอยากฝากไปถึงทุกๆฝ่ายให้ช่วยกันเป็นหูในเรื่องของยาเสพติดเพราะสาเหตุที่ทำให้คนร้ายก่อเหตุเช่นนี้นั้น ก็มาจากยาเสพติด 

นอกจากนี้ยังได้รับแจ้งจากเครือข่ายผู้นำหมู่บ้านในอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฯ ว่าบุคคลดังกล่าวก่อนหน้าได้ขัยรถคันที่มาก่อเหตุเฉี่ยวชนกับรถชาวบ้าน และได้หลบหนีคู่กรณีซึ่งตกลงว่าจะยอมจ่ายค่าเสียหายเป็นเงิน 30,000  บาท และก่อนหน้ามาก่อเหตุที่นี่เพียง 3 วันได้บุกไปที่บ้านหญิงสาวรายหนึ่งในอำเภอไชยา โดยไปเคาะและจะงัดประตูเพื่อจะเข้าไป เชื่อว่าหมายจะไปขมขื่นหญิงสาวภายในห้องแต่ไม่สำเร็จ จนมาก่อเหตุดังกล่าวในจังหวัดชุมพร

ด้าน พ.ต.ท.สุชาติ สิงหา รอง ผกก.สภ.ปากน้ำหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งเหตุ ตนเองพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ได้รุดไปตรวจสอบ และได้สอบถามคุณครูผู้เสียหาย พร้อมทั้งได้รับคลิปที่บันทึกขณะคนก่อเหตุได้พยายามขับรถยนต์กระบะตอนครึ่ง ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือ ผค 5220 สุราษฎร์ธานี และเส้นทางที่หลบหนี จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สภ.ใน จ.ชุมพร และประสาน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งตามทะเบียนรถ แต่ก็ไม่สามารถติดตามสกัดได้จับได้

ในขณะเดียวกันได้ตรวจสอบรถคันดังกล่าวที่เข้ามาก่อเหตุ ทราบว่าเป็นของนายสิทธิพงษ์ เป็นผู้เช่าซื้อ ประกอบกับได้รับแจ้งจากชุดสืบของ สภ.หลังสวน ว่าได้พบคันดังกล่าวจอดทิ้งไว้ในสวนปาล์ม พื้นที่ ม.15 ต.นาพญา อ.หลังสวน จ.ชุมพร ซึ่งห่างจากที่ก่อเหตุกว่า 20 กม.จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ซึ่งก็พบรถติดหล่มล้อจมมิด ป้ายทะเบียนหน้าและหลังถูกถอดออกไป ส่วนภายในรถไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด พ.ต.ท.สุชาติ กล่าวต่ออีกว่า เมื่อไปพบว่าบ้านหลังดังกล่าว ไม่มีแล้ว ถูกรื้อทิ้งไปหลายปี จึงได้สอบถามบ้านข้างเคียง ซึ่งเป็นญาติ จนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ มีอาชีพทำประมงพื้นบ้าน ใน อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี และเพิ่งเข้ามาในพื้นที่ จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางมายัง ปากน้ำตะโก เพื่อติดตามตัว แต่ไม่พบตัวนายสิทธิพงษ์ เจ้าหน้าที่จึงได้จัดกำลังวางสายคอยเฝ้าติดตาม พร้อมประสานทาง สภ.ไชยาไว้

https://youtu.be/nsqPNvupOgc

ภาพ-ข่าว ประสิทธิ์ ลีฬหคุณากร /ชุมพร