นายอนุสรณ์  มณีเลิศ นายอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทีฆาวุธ  บัณฑิตชูสกุล  ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปาย และพ.อ.สมนึก ธูปเทียน ผู้บังคับการกองพันทหารราบที่ 5 กรมทหารราบที่ 7 ( ร.7 พัน.5 ) ค่ายโสณบัณฑิตย์ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยสมาชิก กองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดนที่ 4 อ.ปาย  นำกำลังเดินทางเข้าตัดทำลายไรฝิ่น จำนวน 4 แปลง ตามที่สายได้รายงานมาว่าพบการลักลอบปลูกไร่ฝิ่นแทรกไว้ในแปลงพืชไร่ ในพื้นที่ดอยสูงเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบทางอากาศของเจ้าหน้าที่ ด้วยการแบ่งพื้นที่ปลูกเป็นแปลงย่อยๆ ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ยังพบว่ามีบางส่วนที่เริ่มทำการกรีดเอายางฝิ่นออกไปบ้างแล้ว

สำหรับพื้นที่ที่ได้รับรายงานถึงการลักลอบปลูกฝิ่นนั้น เป็นพื้นที่รอยต่อระหว่าง บ้านบวก ตำบลป๋าแป๋ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ กับบ้านแม่เหมืองหลวง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นเส้นทางที่อยู่บนพื้นที่ป่าเขาสูงชันและอยู่ห่างไกล ทางเจ้าหน้าที่จะต้องใช้วิธีการเดินเท้าลัดเลาะไปตามสันดอย เพื่อเข้าถึงพื้นที่แต่ที่เป็นปัญหาคือกว่าที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางขึ้นไปถึงนั้น มีคนที่ทำหน้าที่ต้นทางพบความเคลื่อนไหวได้รีบส่งสัญญาณแจ้งให้กับคนงานที่กำลังกรีดฝิ่นอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด จากการตรวนสอบแต่ละแปลงพบว่าทั้ง 4 แปลงที่พบการลักลอบปลูกนั้นมีต้นฝิ่นงอกงามมาก ระดับความสูงของต้นอยู่ระหว่าง 100-150 เซนติเมตร ความหนาแน่นของดอกฝิ่นกำลังงอกงามไปกว่าร้อยละ 70-90 แล้วและยังพบร่องรอยของการกรีดและเก็บขี้ฝิ่นไปก่อนหน้านี้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ทั้งหมดต้องเร่งลงมือตัดทำลายไร่ฝิ่นทั้งหมดทิ้งพร้อมกับเผาทำลาย และต้องรีบถอนกำลังกลับก่อนที่จะพลบค่ำ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย

ซึ่งการดำเนินการเข้าตัดทำลายไร่ฝิ่นของพื้นที่การลักลอบปลูกในพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้น เป็นนโยบายที่ต้องดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ในการสกัดกั้นและตัดตอนการปลูกพืชเสพติดในพื้นที่ เพื่อลดปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดอีกประเภทหนึ่ง ที่ยังคงพบการลักลอบปลูกกันมาอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวที่เป็นช่วงที่อุณหภูมิพอเหมาะแก่การเพาะปลูก โดยจะมีกลุ่มที่ลอบปลูกจะอาศัยการย้ายพื้นที่ปลูกหลบหนีการจับกุมไปเรื่อยๆ และที่ยากต่อการเข้าถึงตลอดมา

ภาพ-ข่าว วิรัตน์  นันทะพรพิบูลย์  จ.แม่ฮ่องสอน