ดร.นิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร เขต 2 พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายดลจินดา โมธรรม ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสกลนคร ,ปลัดอาวุโส อ.โคกศรีสุพรรณ, จนท.อส.อำเภอโคกศรีสุพรรณ จนท.อุทยานแห่งชาติภูผายล,กำนัน ต.ตองโขบ และชาวบ้าน เดินทางไปสำรวจตรวจสอบบริเวณผาด่าน ซึ่งอยู่บนเทือกเขาภูพาน บ้านห้วยหีบ ต.ตองโขบ อ.โคกศรีสุพรรณ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูผายล หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า อุทยานแห่งชาติภูผายลได้ปิดประกาศห้ามมิให้นักท่องเที่ยวและชาวบ้านขึ้นไปบริเวณผาด่างโดยเด็ดขาด หากผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องเสียค่าปรับเป็นเงิน 100,000 บาท ทำให้ชาวบ้านขาดรายได้จากการหาของป่ามาขาย,ขาดรายได้จากการจำหน่ายสินค้า,ขาดรายได้จากการนำทาง,ซึ่งน่าจะมีการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่งของ อ.โคกศรีสุพรรณ ซึ่งจากการสำรวจพบว่าบริเวณผาด่านต้องเดินขึ้นไปจากเชิงเขา ระยะทางประมาณ 4 กม.ตลอดเส้นทางบางแห่งร่มรื่นบางแห่งเป็นลานหิน มีถ้ำซึ่งเป็นที่หลบซ่อนของขบวนการเสรีไทย มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ตั้งอยู่ 1 องค์ ด้านบนเป็นลานหินและมีโขดหินยื่นออกไปจากหน้าผา
ส.ส.ดร.นิยม เวชกามา กล่าวว่า ถ้ำภูผาด่างอยู่ในเขตพื้นที่ของบ้านห้วยหีบยุคสมัยนายเตียง ศิริขันธ์ ขุนพลภูพาน หัวหน้าขบวนการเสรีไทย ตนเห็นว่าบรรยากาศน่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ได้อีกที่หนึ่งของ จ.สกลนคร ธรรมชาติ 100% คนจะขึ้นมาตรงนี้ต้องมาด้วยอยากมาดูธรรมชาติ เพราะถ้ำผาด่างเป็นถ้ำธรรมะ และธรรมชาติ ผาด่างที่เป็นรอยเกิดจากน้ำฝน ตนจะต้องนำเรื่องนี้ไปหารือกับ ท่านวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อหาทางเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ เมื่อมาดูแล้วเห็นน่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้ให้คนในท้องถิ่น แต่ปัญหามันก็มีตรงที่ว่า ถ้านักท่องเที่ยวขึ้นมา ก็ต้องมี จนท. ดูแลด้วยเ พราะว่ามันเป็นป่าบนภูพานจริงๆ ถ้านักท่องเที่ยวมาแล้วต้องมาอยู่ในขอบเขตจำกัดของอุทยานฯด้วย และต้องไม่เกิดปัญหาของสภาพแวดล้อมด้วย แล้วตรงนี้เป็นหน้าผาที่สูงชันมาก ถ้าไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ หรืออยู่ในวินัยก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุตกหน้าผาตาย ก็ต้องฝากท่าน วราวุธฯ ว่าน่าจัดสรรในส่วนที่ให้ชาวบ้านมาอยู่กับธรรมชาติ มาค้างคืน มาตั้งเต็นท์ได้ คนที่มาต้องตั้งใจมาด้วย จอดรถที่ด้านล่างแล้วเดินขึ้นมา 3-4 กิโล ต้องเอาข้าวปลาอาหารขึ้นมารับประทานด้วย ธรรมชาติที่สุด ไม่มีไฟฟ้า น้ำประปาหรือสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ขอฝากท่านอธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชด้วย ซึ่งประเด็นคือว่าทางอุทยานฯ ยังไม่ให้คนขึ้น เพราะกลัวไม่ปลอดภัย เรื่องนี้จะต้องพูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อหาทางแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน สรุปว่า อ.โคกศรีสุพรรณ ก็จะได้แหล่งท่องเที่ยวใหม่ เศรษฐกิจในชุมชนก็จะดีขึ้นด้วย ส.ส.ดร.นิยม กล่าว
ภาพ-ข่าว วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร