สืบเนื่องจากวันที่ 13 ก.ย.65 ป้ากับลุง ชาวจ.เลย ได้พาหลานสาวอายุ 16 ปี เดินทางมาร้องทุกข์ที่มูลนิธิปวีณาฯ แจ้งว่า ตนได้พาหลานไปเรียนชั้น ม.3 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.เพชรบูรณ์ วันที่ 21 ส.ค.65 ทางโรงเรียนตรวจพบหลานติดโควิดจึงต้องแยกไปกักตัวที่สถานที่ที่โรงเรียนจัดเตรียมไว้ แยกหญิงและชาย โดยมีนักเรียนหญิงที่ถูกกักตัวประมาณ 30 คน 

วันที่ 23 ส.ค.65 เพื่อนนักเรียนหญิงหัวโจก 2 คน ได้นัดนักเรียนชาย 4 คน แอบขึ้นมามีเพศสัมพันธ์กันบนหอกักตัวโดยที่ครูเวรอยู่ข้างล่างไม่ทราบเรื่อง นักเรียนชายเข้าไปมีความเพศสัมพันธ์กันในห้องกักตัวโดยจะใช้วิธีนอนคลุมโปงกัน ซึ่งนักเรียนหญิงที่ติดโควิดถูกกักตัวทั้งหมดก็นอนอยู่ในห้องนั้นด้วย และนักเรียนหญิงหัวโจก 2 คน ก็ได้ข่มขู่ทุกคนห้ามนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปบอกกับครู ถ้าหากใครเอาเรื่องไปบอกจะตามทำร้าย  จึงไม่มีใครกล้าที่บอกครู      

วันที่ 24 ส.ค.65 เวลาประมาณ 23:00 น. เพื่อนนักเรียนหญิงหัวโจก 2 คนดังกล่าว ได้นัดนักเรียนชายขึ้นมาบนหอกักตัวอีกครั้ง โดยมีนักเรียนชายแอบขึ้นมา 6 คน ซึ่ง 1 ใน 6 คน จะคอยดูต้นทาง นักเรียนชายอีก 4 คน ก็จับคู่กันเหมือนเดิม และมีนักเรียนชายอีก 1 คน อายุ 15 ปี นักเรียนหญิงหัวโจก 2 คน ได้ชี้มาที่หลานลักษณะชี้เป้าว่าเป็นเด็กใหม่ และให้นักเรียนชายคนดังกล่าวกระทำโดยการนอนคลุมโปง ซึ่งหลานไม่มีแรงที่จะต่อสู้ขัดขืนเพราะเป็นไข้ หลานถูกกระทำจนสำเร็จความใคร่ หลังจากกระทำเสร็จนักเรียนชายทั้งหมดได้ออกจากห้องไป พร้อมด้วยเพื่อนอีก 5 คน ได้ออกจากห้องพักไปโดยทำท่าทีไม่มีอะไรเกิดขึ้น และไม่มีใครกล้าที่จะไปบอกครูเพราะถูกกลุ่มนักเรียนหญิงหัวดจก 2 คน ข่มขู่ไว้

ป้า กล่าวอีกว่า ขอบคุณมูลนิธิปวีณาฯ ที่ให้การช่วยเหลือตั้งแต่แรกคือวันที่ 13 ก.ย.65 ที่เดินทางมาร้องทุกข์ โดยนางปวีณา ได้ติดต่อ นายธีร์ ภวังคนันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการทันที และให้เจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษานำรถมารับเพื่อไปให้ข้อมูล โดยป้าและแม่ มีความประสงค์จะแจ้งความ  นางปวีณา จึงได้ประสาน พ.ต.อ.รณฤทธิ์ สุธาพจน์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ให้ตนพาหลานเข้าแจ้งความวันที่ 15 ก.ย. โดยตำรวจได้ส่งหลานไปตรวจร่างกาย และนัดสอบสหวิชาชีพในวันที่ 27 ก.ย.นี้

“หลานเพิ่งเข้าไปเรียนที่โรงเรียนได้เพียง 2 เดือน ใครที่เพิ่งเข้าไปใหม่ก็ต้องเป็นรุ่นน้อง ซึ่งเด็กที่อยู่ก่อนก็ถือเป็นรุ่นพี่ หลานตนยังไม่ค่อยรู้จักใครเท่าไหร่ เรื่องที่เกิดขึ้นหลานเราต้องมีตราบาปไปตลอดชีวิต สภาพจิตใจย่ำแย่ ต้องย้ายโรงเรียน ขณะที่ผู้กระทำความผิดยังลอยนวล และทางโรงเรียนพยายามจะให้ทางเรายอมความ ไม่เอาเรื่อง ซึ่งครอบครัวตนไม่ยอม ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้ถึงที่สุด ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยด้วย”

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า กรณีมีเด็กถูกกระทำในโรงเรียน มูลนิธิได้รับเรื่องเมื่อวันที่ 13 ก.ย. ป้ากับลุงได้พาหลานสาวอายุ 16 ปี มาขอความช่วยเหลือที่มูลนิธิปวีณาฯ จึงได้ประสาน นายธีร์ ภวังคนันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการทันที เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นและรายงาน น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้บริหารระดับสูง กระทรวงศึกษาธิการ เพราะเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมากที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นในโรงเรียน ต้องมีมาตรการเด็ดขาดในการคุ้มครองเด็ก โดยป้าและแม่เด็กมีความประสงค์จะแจ้งความ นางปวีณา จึงได้ประสาน พ.ต.อ.รณฤทธิ์ สุธาพจน์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ให้ป้าพาหลานไปแจ้งความ วันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจส่งเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแล้ว และนัดสอบสหวิชาชีพในวันที่ 27 ก.ย.นี้ 

“ขณะที่แม่และป้าเด็กยังกลัวความไม่เป็นธรรมอยู่ ดังนั้นพรุ่งนี้ วันจันทร์ที่ 26 ก.ย. เวลา 11.00 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ จะพาแม่และป้า เดินทางไปพร้อม นายธีร์ ภวังคนันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ไปที่โรงเรียนดังกล่าวเพื่อประชุมหาข้อสรุป แม่และป้าของเด็กต้องการความเป็นธรรม และหาแนวป้องกันแก้ไขไม่ให้เหตุเกิดขึ้นซ้ำอีก