จากกรณีนางอารมณ์  อายุ 80 ปี แม่ของนายสุรชัย ที่ฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันเชื้อโควิด-19 เข็ม 2 แล้วเสียชีวิต ต่อมานางสาวเอ ภรรยาของนายสุรชัย ได้ยื่นเอกสารต่อ สปสช. เข้าหลักเกณฑ์การเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนได้เงินเยียวยาจำนวน 400,000 บาทแล้วขาดการติดต่อเชิดเงินหนีไป ทำให้คุณยายได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักหวังจะนำเงินจำนวนดังกล่าวเพื่อจะมารักษาตัวเนื่องจากป่วยเป็นนิ่วในถุงน้ำดี , เป็นโรคความดัน , โรคไต,ต่อมทอลซิลอักเสบ, โรคเครียด , ปวดหัวตลอดเวลาต้องกินยานอนหลับเป็นประจำทุกวัน และจะนำเงินอีกส่วนหนึ่งมาส่งค่าบ้านที่นำไปจำนองกับทางธนาคารจะครบกำหนดยืดภายในเดือนกันยายนนี้เนื่องจากค้างชำระเกิน 3 งวด ตอนนี้หมดเนื้อหมดตัวถ้าบ้านโดนยึดไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน และจะไม่ขอมีชีวิตอยู่อีกต่อไปจะขอไปจบชีวิตในน้ำ ทำใจไม่ได้จริงๆเพราะผูกพันกับบ้านหลังนี้

 นางอารมณ์ กล่าวว่า ตนซื้อบ้านตั้งแต่เมื่อ ปี 2539 ราคา 1,300,000 บาท ทำสัญญา 30 ปี ผ่อนเดือนละ 10,000 บาท ผ่อนได้ 10 ปีไม่มีเงินผ่อนต่อเลยหยุดผ่อนไปทำเอกสารสัญญาที่ธนาคาร ได้เปลี่ยนเป็นชื่อนายสุรชัย ศรีธัญญา (ผู้เสียชีวิต)  เริ่มผ่อนใหม่ เปลี่ยนเป็นเดือนละ 6,000 บาท ส่งต่อจนถึงปี 54 พอถึงปี 54 ส่งไม่ไหวเลยจะขาย ลูกชายคนโตบอกจะช่วยส่ง เดือนละ 3,000 บาท ยาย 3,000 บาทเป็น 6,000 บาท พอลูกชายคนโตล้มป่วยติดเตียงมา 2 ปีกว่า ไม่ได้ช่วยผ่อนยายต้องผ่อนคนเดียว ตอนนี้ไม่มีเงินสักบาทต้องขายของในบ้าน ไปเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้ขายรถกระบะ 1 คัน และขายรถมอเตอร์ไซค์ 1 คัน เพื่อนำเงินมาส่งบ้านยื้อเวลาไปเรื่อยๆภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้จะครบกำหนด 3 เดือนทางธนาคารติดต่อมา ถ้าไม่มีเงินจ่าย ธนาคารจะมายึดบ้านเพื่อขายทอดตลาด ยังค้างค่าผ่อนส่งอยู่อีก 2 แสนกว่า ก่อนหน้านี้พอมีเงินอยู่บ้าง เอาไปจัดงานศพของลูกชายคนเล็กจนหมดไม่มีเงินลงทุนขายของ ตอนนี้มีอาการป่วยสลับกับน้องสาวต้องไปหาหมอบ่อยจนไม่สามารถหาเงินมาส่งค่าบ้านกับธนาคารได้ ผ่อนบ้านมากว่า20 ปีจะมาโดนยึด รู้สึกท้อแท้ในโชคชะตาชีวิต หมดอะไรตายอยาก คิดถึงลูกชายที่เสียวิติกับคนคนที่ล้มป่วยติดเตียงแต่ก็ไม่สามารถไปหามาสู่ได้เพราะไม่มีเงินค่าเดินทางแม้ลำพังเงินจะใช้จ่ายใช้กินแทบจะไม่มี

นานๆครั้งที่จะมีหน่วยงานอย่างศูนย์ดำรงธรรมเข้ามาช่วยเหลือนำข้าวสารอาหารแห้งมาให้เพื่อประทังชีวิตทั้งตนและน้องสาวทานข้าวกับไข่ทอดและไข่ต้มทุกวันจิ้มกับน้ำปลาพริกป่น ทานข้าวกันไปก็บ่นกันไปทำไมชีวิตตัวเองถึงได้ลำบากและโชคร้ายเช่นนี้บ้านก็ไม่จะอยู่เงินก็ไม่มีแถมต่างคนก็ต่างป่วยจะเอาเรี่ยวเเรงที่ไปทำอะไรได้จนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อยากจะตายให้รู้เเล้วรู้รอดไปจะได้หมดทุกข์ แต่ก็ยังห่วงน้องสาวคิดถึงลูกชายวันๆนั่งหมดอะไรตายอยากไม่อยากมีชีวิต เคยจะฆ่าตัวตายมาแล้วแต่ไม่สำเร็จคิดอะไรไม่ออกบอกไม่ถูกมืดแปดด้านได้แต่หวังว่าพรุ่งนี้อาจมีปาฎิหารย์ลูกชายหายป่วยหรือมีเงินผ่อนบ้านเพื่อไม่ให้ทางธนาคารมายึดบ้านเพราะตนเองผูกพันกับบ้านหลังนี้เหนื่อยผ่อนมาตลอดทั้งชีวิตจนใกล้จะหมดเเล้ว “ อยากให้ผู้มีผู้ใจบุญมีเมตตา กรุณาช่วยเหลือยายกับน้องสาวได้มีบ้านอยู่ มีข้าวกิน ขอวอนผู้ใจบุญที่มีจิตใจเมตตาเข้าช่วยเหลือยายให้มีที่อยู่มีข้าวกินยายไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว อยากฝากถึงทนาย นินู ที่ช่วยเดินเรื่องให้ยายโดยไม่หวังอะไรตอบแทนขอให้ทนายนินูเจริญรุ่งเรืองหน้าที่การงานและช่วยเหลือคนที่ตกทุกได้ยากต่อไป

นางอารีย์ อายุ 67 ปี น้องสาวยาย กล่าวว่าตนอาศัยอยู่กับยาย 2 คน เวลาตนป่วยพี่สาวจะพาไปหาหมอ เวลาพี่สาวป่วยตนจะพาไปหาหมอ ตอนนี้มีอาการเจ็บหน้าอกไปหาหมอรอผลตรวจ ตนรู้สึกสงสารพี่สาวมากที่ทางลูกสะใภ้เอาเงิน 4 แสนไป น่าจะเหลือเงินไว้ให้พี่สาวส่งบ้านบ้าง บ้านโดนยึดตนไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนขายของหน้าบ้านก็ขาดทุนไม่ขายก็ไม่มีกินไม่รู้จะทำยังไง 

สำหรับท่านใดอยากจะช่วยเหลือนางอารมณ์  ศรีธัญญา สามารถโอนเงินช่วยเหลือได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบางบัวทอง ชื่อบัญชีนางอารมย์ ศรีธัญญา บัญชีเลขที่  352-258516-0    

ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต จ.นนทบุรี