ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ฝนตกอย่างหนักในจังหวัดนครราชสีมา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ทางการเกษตรอยู่ จำนวน 16 อำเภอ มีพื้นที่นาข้าวถูกน้ำท่วมขังจำนวน 87,000 ไร่ แต่นาข้าวยังไม่เสียหายเพราะน้ำเพิ่งเริ่มท่วมขัง สวนพืชไร่อื่นๆประมาณ 8,000 ไร่ ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อนประมาณ 11,000 ครอบครัว มีส่วนเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ที่อยู่ใกล้ลำน้ำสาขาลำตะคอง ได้มีการนำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ไปติดตั้งสำรองติดตั้งทุกจุดที่มีความเสี่ยง ในส่วนเขื่อนลำตะคองยังสามารถรับน้ำได้ร้อยละ 65 ของความจุ

แต่ยังมีการเฝ้าระวังน้ำที่มาจากเขาใหญ่ โดยเฉพาะที่น้ําตกเหวสุวัต ค่อนข้างจะเยอะแต่ยังโชคดีที่น้ำไหลลงไปทางจังหวัดนครนายก และอำเภอปากช่องจำนวนหนึ่งและยังสามารถควบคุมพื้นที่ได้ ไปสอนพื้นที่ชุมชนในเมืองยังมีการเคลียร์พื้นที่ที่มีการกีดขวางทางน้ำต้องมีการเร่งการระบาย เพื่อรอรับน้ำมวลใหม่เข้ามาในพื้นที่ และยังมีพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียวที่ยังมีน้ำป่าไหลหลากเข้ามา แต่ใช้เวลาไม่นานก็สามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ ซึ่งเป็นห่วงเรื่องของสถานการณ์น้ำป่าและฝนตกสะสมในเขตพื้นที่อำเภอเมืองนครราชสีมา

จึงต้องมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ถึงได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ประจำจุดเพื่อเตรียมการให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา รวมไปถึงอุปกรณ์ในการสูบน้ำ ในสถานการณ์อ่างน้ำเชียงไกรได้มีการสร้างประตูระบายน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงสามารถที่จะควบคุมปริมาณน้ำได้ที่จะไหลผ่านอ่างลำเชียงไกรจึงไม่น่าจะมีปัญหา ยกเว้นหากฝนตกเกินปริมาณที่กำหนดจึงจะต้องทำการระบายน้ำ แต่ตอนนี้ยังสามารถรับสถานการณ์ได้

อย่างไรก็ตาม ฝากเตือนพี่น้องที่อยู่ในเขตเทศบาลถึงแม้ว่าสถานการณ์น้ำลำตะคองแต่ยังไม่มีการเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ แต่ฝนที่ตกใต้เขื่อนโดยเฉพาะอำเภอสีคิ้ว อำเภอสูงเนิน อาจจะทำให้มีการน้ำเพิ่มขึ้น พี่น้องที่อยู่ริมลำตะคองควรเฝ้าสังเกตการณ์ระมัดระวัง ฟังการแจ้งเตือนจากทางราชการเป็นระยะ โดยทางจังหวัดก็มีการเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ภาพ-ข่าว/อภิรักษ์ ศรีอัศวิน ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดนครราชสีมา