ขบวน ร่างของ วีรบุรุษทหารกล้า จ่าสิบเอก ดำรงเกียรติ แก้วกระจ่าง ที่พลีชีพที่ เนิน677 ช่องอานม้า เพื่อปกป้องอธิปไตยชายแดนไทย เดินทางมาถึงที่วัดหลวงพ่อเขียว ต. บ้านแพรก อ บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา ทหารกองเกียรติยศของกองพันจู่โจม จังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย ข้าราชการ ประชาชน ตั้งแถวรอรับอย่างสมเกียรติชายชาติทหาร นอกจากนี้พบ ตลอดเส้นทางของการเคลื่อนย้าย มาจากสนามบินดอนเมืองจนถึงวัดหลวงพ่อเขียว มีชาวบ้านยืนไว้อาลัยพร้อมกับโบกธงชาติ โดยบรรยากาศที่ศาลากลางวัดหลวงพ่อเขียวเป็นด้วยความโศกเศร้าชาวอำเภอบ้านแพรก นาย ตี๋ แก้วกระจ่าง. อายุ 67 ปี พ่อ นาง รวีวรรณ แก้วกระจ่าง อายุ 65 ปี นางสาว สุนีย์ โตปานวงศ์ อายุ 43 ปี ภรรยา ลูกสาว และญาติ อยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ ลูกสาว นั่งเช็ดรูป หอมแก้มพ่อจากรูปตลอดเวลาด้วยความคิดถึงพ่อ พร้อมกับเขียนข้อความในรูป

นางสาว จุไรรัตน์ แก้วกระจ่าง น้องสาว อายุ 30 ปี เปิดเผยว่า พอทราบข่าวก็รีบกลับมาหาพ่อกับแม่ เพราะป่วยอยู่ด้วยกันทั้งคู่ สุขภาพไม่ค่อยดี พี่ชายป็นเหมือนเสาหลักของครอบครัวดูแลพ่อแม่และตนเอง ที่เขาสมัครรับราชการ เขาก็ต้องการเพื่อจะดูแลพ่อแม่ อยากให้พ่อแม่ได้รับการดูแลรักษาที่ดี เบิกได้ อีกทั้งเขายังรักในอาชีพทหาร เขาชอบมาตั้งแต่เด็ก รักมากๆ เขาจะบอกเสมอว่าถ้าตาย เขาอยากให้มีธงชาติคลุมร่าง รักอาชีพมาก เขาไม่ค่อยชอบคุย ไม่ชอบอวด ไม่เล่าอะไรให้ฟัง ไม่เคยแม้แต่ใส่ชุดเต็มมาโชว์ มาบ้านก็จะมากวาดบ้านรดน้ำต้นไม้ พึ่งจะได้เห็นพี่ชายใส่ชุดเต็มยศวันนี้

ล่าสุดที่คุยกัน ก็เมื่อต้นเดือนที่กลับมาเจอกัน ตอนตรวจสุขภาพ แต่ถ้าคุยกันล่าสุดเมื่อโทรหากันเมื่อวันศุกร์ ก็โทรไปหาเอกสารกันทั่วไป รู้แต่ว่าเขาคุยกับภรรยาเขาว่าจะขึ้นเขา ก็ทราบล่าสุด แต่ก็คิดอยู่ว่าครั้งนี้คงจะหลักเพราะครั้งที่แล้วเขาขึ้นตีภูมะเขือ แต่ครั้งนี้นาน เหมือนหายไปนานผิดปกติ จนมาทราบเรื่องจากภรรยาตอนนั้นก็อยู่ด้วยกัน แต่ก็รอจนกว่าจะมีการยืนยันเคส

นางสาว สุนีย์ โตปานวงศ์ อายุ 43 ปี ภรรยา จ่าสิบเอก ดำรงเกียรติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. มีรุ่นของแฟน ไลน์มาขอ ชื่อขอนามสกุล ขอเบอร์ก่อน ตอนนั้นจิตใจก็ไม่ค่อยดีแล้ว ถามกลับว่ามีอะไรเกิดอะไรขึ้น รุ่นพี่ยังไม่ยอมบอกยังไม่มั่นใจขอเช็คก่อน เพราะเราดูจากข่าวจุดที่แฟนปฎิบัติหน้าที่อยู่มีการปะทะกันรุนแรง แต่ก็ยังไม่อยากเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้น พอผู้บังคับบัญชาโทรมาบอก ก็ยังไม่อยากจะเชื่อจนกว่าจะเห็นศพ จนวันนี้ได้ไปรับร่างกลับมาจนเห็นร่างของของสามี จึงเชื่อว่าสามีเสียชีวิตแล้ว จะมีการพูดคุยกันตลอดถ้าวันไหนอยู่ที่เนินหรือภูเขาไม่มีสัญญาณ จะเดินลงจากเขามาพูดคุยกันพอวันที่7 ธ.ค.ได้คุยเขาบอกว่าจะมีการรบกันจะไม่ได้คุยแล้ว ขอดูลูกคุยกับลูกหน่อย บอกให้ดูแลลูกให้ดีปิดบ้านล้อคบ้านให้ดี มีอะไรจะให้รุ่นพี่ติดต่อมา ซึ่งทุกวันแค่ทักหากันทางไลน์ เขาจะบอกวาปลอดภัยดี จนถึงเช้าของเมือวานนี้ ตนเองภูมิใจในความเป็นทหารของสามี แต่ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ แต่เราเหมือนทำใจไว้แล้ว แต่เท่าที่คุยกัน เหมือนเขาทำใจแล้วเขาจะคอยบอกว่า ถ้าเขาเป็นอะไรไปลูกเมียจะได้สบาย และเขาจะคอยบอกอีกว่า ถ้าเขาเป็นอะไรไป อยากให้ทำงานศพเขาอย่างสมเกียรติ ก็พอ เหมือนเขาเตรียมใจตลอดเวลา ซึ่งครั้งนี้เขายังสัญญาเป็นครั้งสุดท้ายว่าเขากลับมาครั้งนี้จะพาตนเองและลูกไปเที่ยวทะเล จะไม่ไปไหนแล้ว ที่ตั้งใจจะปฏิบัติหน้าที่ ที่ภาคใต้ จะไม่ไปแล้ว จะใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว

ส่วน ลูกสาวตอนแรกก็ไม่ทราบเพราะไม่ได้บอกมาทราบตอนที่ไปรับที่สนามบิน ยังถามว่าทำไมพ่อนอนมา เราก็บอกว่าพ่อพักผ่อน ได้แต่บอกว่าพ่อไม่ทำตามสัญญา ลูกสาวน้องตั้งใจวาดภาพ เพื่อให้กำลังใจพ่อ สู้ สู้ หนูกับแม่เป็นห่วงนะ ยังไม่ได้ส่งให้พ่อดูต้องมาเปลี่ยนข้อความที่ภาพ เป็นบอกพ่อหลับให้สบายนะ น้องเขียนที่วัดเพื่อสื่อสารกับพ่อ ซึ่งครั้งนี้เขายังสัญญาเป็นครั้งสุดท้ายว่าเขากลับมาครั้งนี้จะไปเที่ยวทะเล จะไม่ไปไหนแล้ว ที่ตั้งใจจะลงใต้ก็ไม่ลงแล้ว จะใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว ลูกสาวตอนแรกก็ไม่ทราบเพราะไม่ได้บอกมาทราบตอนที่ไปรับที่สนามบิน ยังถามว่าทำไมพ่อนอนมา เราก็บอกว่าพ่อพักผ่อน ได้แต่บอกว่าพ่อไม่ทำตามสัญญา ซึ่ง กำหนดการบำเพ็ญกุศล และพระราชทานเพลิงศพ สวดพระพิธีธรรมตั้งแต่เวลา 17.00 น ของวันที่ 14 จนถึงวันที่ 17 ธันวาคม จากนั้นวันที่ 18 ธันวาคม เวลา 16:00 น พิธีพระราชทานเพลิงศพ
ภาพ-ข่าว สุรัตน์ จ.อยุธยา