ตำรวจ สภ.แพงแสน จ.นครปฐม พร้อมด้วย ตำรวจทางหลวง ได้เผยแพร่คลิบการไล่ล่าจับกุมผู้ต้องหาที่ขนยาบ้ามา กว่า 1 ล้านเม็ด โดยมีการซ่อนตัวก่อนจะมีการติดตามค้นหาระทึกก่อนควบคุมตัวไว้ได้ โดยพลตำรวจตรีพรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง พลตำรวจตรีพิทักษ์ อุปพงษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พันตำรวจเอกปราโมทย์ โพธิ์พันธ์ ผู้กำกับการตำรวจภูธรกำแพงแสน พันตำรวจโทโยธี เบญจวรรณ์ รองผู้กำกับการสืบสวน พันตำรวจโทยงยศ พันธุ รองผู้กำการปราบปราม และกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งสองหน่วยงาน ได้ทำการจับกุม นายศักดา (นามสมมติ) อายุ 29 ปี โดยได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดประเภทที่หนึ่ง โดยมีไว้เพื่อเป็นการกระทำเพื่อการ ก่อก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” โดยมีการยึดของกลาง เป็นยาเสพติดประเภทที่หนึ่งยาบ้าจำนวน 1,000,000 เม็ด รถยนต์เก๋งยี่ห้อซูซูกิสวิฟต์สีแดง จำนวนหนึ่งคัน โทรศัพท์มือถือยี่ห้อเรียวมี สีเขียว ซึ่งเป็นของผู้ต้องหาที่ใช้ในการติดต่อธุรกรรมในการ ประสานเกี่ยวกับการค้ายาเสพติดจำนวนหนึ่งเครื่อง ซึ่งมีการถูกจับกุมบริเวณปากทางเข้าซุ้มประตูวัดหนองขามพัฒนา ตำบลทุ่งกระพังโหม อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม
ซึ่งจากคลิปในการไล่ล่าดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 เวลาประมาณ 10:00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนครปฐมได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมี การขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่จากภาคเหนือลงสู่ภาคใต้โดยใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อซูซูกิสวิฟต์สีแดงเจ้าหน้าที่ทางหลวงจึงได้มีการเฝ้าระวังและตรวจสอบรถยนต์ในเส้นทางดังกล่าวกระทั่งพบว่ารถต้องสงสัยที่ขับมุ่งมาทางอำเภอกำแพงแสน จากนั้น พันตำรวจโทณัฐพงศ์ อำไพจิตร์ สารวัตรฯสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับ 2 บังคับการตำรวจทางหลวง ได้สั่งการให้มีการติดตามรถคันดังกล่าวกระทั่งเวลา 16:00 น. จึงได้พบว่ารถคันดังกล่าวได้วิ่งอยู่บนถนนทางหลวงหมายเลข321 กิโลเมตรที่ 41 ในเขตพื้นที่อำเภอกำแพงแสนซึ่งพบว่ามีการดัดแปลงป้ายทะเบียนจึงได้ขับติดตามพฤติกรรมไปยังห่างห่างและประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกำแพงแสนวางแผนในการสกัดเพื่อเข้าทำการจับกุม
ต่อมาเมื่อรถต้องสงสัยได้ขับ มาบนเส้นทางและเริ่ม รู้ตัวว่ามีการถูกแกะรอยจึงได้พยายามเล่นเครื่องหนีเข้าไปในชุมชนบริเวณฝั่งตรงข้ามของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสนซึ่งช่วงดังกล่าว เป็นช่วงที่มีรถใช้พื้นที่การจราจรค่อนข้างทับข้างเนื่องจากเป็นเวลาเลิกงานและเลิกเรียนและพยายามใช้ความรัดกุมในการเกาะติดเนื่องจากจะมีประชาชนได้รับเหตุร้าย กระทั่งคนร้ายได้ขับรถย้อนศรไปตามถนนที่เต็มไปด้วยรถยนต์ของประชาชนที่วิ่งสวนมาจนกระทั่งเข้าไปที่ซุ้มประตูของวัดหนองขามพัฒนา ซึ่งทำให้รถเสียหลักไปชนกับกองอะไหล่ของเครื่องจักรที่ซ่อมอยู่ข้างทางทำให้รถยนต์ไม่สามารถออกไป จากนั้นคนร้ายได้วิ่งหนีออกจากรถเข้าไปที่ชุมชนเพื่อหวังจะหลบซ่อนจากการติดตามจับกุม
ขณะเดียวกันชุดจับกุมและชุดไล่ล่าได้นำกำลังมาปิดล้อมในพื้นที่บริเวณดังกล่าวซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กำแพงแสน ได้ใช้โดรนติดตามหาคนร้ายจากมุมสูงจนกระทั่งพบว่าคนร้ายซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้าติดกับกำแพงของบ้านหลังหนึ่งจึงได้นำกำลังเข้าควบคุมตัวเอาไว้พบว่า คือนายศักดา (นามสมมุติ) พร้อมด้อยของการยาบ้าที่ถูกบรรจุเอาไว้ในกระสอบกระสอบละ 200,000 เม็ด และได้ควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจทางหลวงนครปฐมเพื่อการตรวจสอบและสอบสวนจากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเจ็ดมาร่วมทำการเก็บข้อมูลพบว่ามียาบ้าทั้งหมดห้ากระสอบรวม 20 ห่อทั้งสิ้นรวมแล้ว 1,000,000 เม็ด
นายศักดา (นามสมมติ) ให้การว่าตัวเองได้รับจ้างขนยาบ้าครั้งนี้เป็นจำนวนเงิน 100,000 บาทโดยให้ไปรับยาบ้ามาจากอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายเพื่อให้นำไปสู่ในพื้นที่ภาคใต้แต่เมื่อขับรถมาถึงบริเวณดังกล่าวได้พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจสะกดรอยตามจึงได้พยายามหลบหนีแต่ไปไม่รอดเมื่อถูกโดรน สามารถจับภาพไว้ได้และมีตำรวจเข้ามาควบคุมตัวดังกล่าว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีการสอบสวนและสืบสวนเพื่อขยายผลหาต้นตอของแหล่งยาเสพติดและปลายทางที่จะนำไปส่งเพื่อที่จะได้มีการติดตามตัวผู้ค้ารายใหญ่ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นขบวนการที่มีชื่ออยู่ทางภาคเหนือเชื่อมโยงกับเขตพื้นที่ภาคใต้ต่อไป
@chaijexu นครปฐม สภ.กำแพงแสน สนธิกำลังตำรวจทางหลวง ตามล่าระทึก จับคนร้ายขนยาบ้า 1 ล้านเม็ด ตำรวจ สภ.แพงแสน จ.นครปฐม พร้อมด้วย ตำรวจทางหลวง ได้เผยแพร่คลิบการไล่ล่าจับกุมผู้ต้องหาที่ขนยาบ้ามา กว่า 1 ล้านเม็ด โดยมีการซ่อนตัวก่อนจะมีการติดตามค้นหาระทึกก่อนควบคุมตัวไว้ได้ โดยพลตำรวจตรีพรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง พลตำรวจตรีพิทักษ์ อุปพงษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พันตำรวจเอกปราโมทย์ โพธิ์พันธ์ ผู้กำกับการตำรวจภูธรกำแพงแสน พันตำรวจโทโยธี เบญจวรรณ์ รองผู้กำกับการสืบสวน พันตำรวจโทยงยศ พันธุ รองผู้กำการปราบปราม และกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งสองหน่วยงาน ได้ทำการจับกุม นายศักดา (นามสมมติ) อายุ 29 ปี โดยได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดประเภทที่หนึ่ง โดยมีไว้เพื่อเป็นการกระทำเพื่อการ ก่อก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” โดยมีการยึดของกลาง เป็นยาเสพติดประเภทที่หนึ่งยาบ้าจำนวน 1,000,000 เม็ด รถยนต์เก๋งยี่ห้อซูซูกิสวิฟต์สีแดง จำนวนหนึ่งคัน โทรศัพท์มือถือยี่ห้อเรียวมี สีเขียว ซึ่งเป็นของผู้ต้องหาที่ใช้ในการติดต่อธุรกรรมในการ ประสานเกี่ยวกับการค้ายาเสพติดจำนวนหนึ่งเครื่อง ซึ่งมีการถูกจับกุมบริเวณปากทางเข้าซุ้มประตูวัดหนองขามพัฒนา ตำบลทุ่งกระพังโหม อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ซึ่งจากคลิปในการไล่ล่าดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 เวลาประมาณ 10:00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนครปฐมได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมี การขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่จากภาคเหนือลงสู่ภาคใต้โดยใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อซูซูกิสวิฟต์สีแดงเจ้าหน้าที่ทางหลวงจึงได้มีการเฝ้าระวังและตรวจสอบรถยนต์ในเส้นทางดังกล่าวกระทั่งพบว่ารถต้องสงสัยที่ขับมุ่งมาทางอำเภอกำแพงแสน จากนั้น พันตำรวจโทณัฐพงศ์ อำไพจิตร์ สารวัตรฯสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับ 2 บังคับการตำรวจทางหลวง ได้สั่งการให้มีการติดตามรถคันดังกล่าวกระทั่งเวลา 16:00 น. จึงได้พบว่ารถคันดังกล่าวได้วิ่งอยู่บนถนนทางหลวงหมายเลข321 กิโลเมตรที่ 41 ในเขตพื้นที่อำเภอกำแพงแสนซึ่งพบว่ามีการดัดแปลงป้ายทะเบียนจึงได้ขับติดตามพฤติกรรมไปยังห่างห่างและประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกำแพงแสนวางแผนในการสกัดเพื่อเข้าทำการจับกุม ต่อมาเมื่อรถต้องสงสัยได้ขับ มาบนเส้นทางและเริ่ม รู้ตัวว่ามีการถูกแกะรอยจึงได้พยายามเล่นเครื่องหนีเข้าไปในชุมชนบริเวณฝั่งตรงข้ามของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสนซึ่งช่วงดังกล่าว เป็นช่วงที่มีรถใช้พื้นที่การจราจรค่อนข้างทับข้างเนื่องจากเป็นเวลาเลิกงานและเลิกเรียนและพยายามใช้ความรัดกุมในการเกาะติดเนื่องจากจะมีประชาชนได้รับเหตุร้าย กระทั่งคนร้ายได้ขับรถย้อนศรไปตามถนนที่เต็มไปด้วยรถยนต์ของประชาชนที่วิ่งสวนมาจนกระทั่งเข้าไปที่ซุ้มประตูของวัดหนองขามพัฒนา ซึ่งทำให้รถเสียหลักไปชนกับกองอะไหล่ของเครื่องจักรที่ซ่อมอยู่ข้างทางทำให้รถยนต์ไม่สามารถออกไป จากนั้นคนร้ายได้วิ่งหนีออกจากรถเข้าไปที่ชุมชนเพื่อหวังจะหลบซ่อนจากการติดตามจับกุม ขณะเดียวกันชุดจับกุมและชุดไล่ล่าได้นำกำลังมาปิดล้อมในพื้นที่บริเวณดังกล่าวซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กำแพงแสน ได้ใช้โดรนติดตามหาคนร้ายจากมุมสูงจนกระทั่งพบว่าคนร้ายซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้าติดกับกำแพงของบ้านหลังหนึ่งจึงได้นำกำลังเข้าควบคุมตัวเอาไว้พบว่า คือนายศักดา (นามสมมุติ) พร้อมด้อยของการยาบ้าที่ถูกบรรจุเอาไว้ในกระสอบกระสอบละ 200,000 เม็ด และได้ควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจทางหลวงนครปฐมเพื่อการตรวจสอบและสอบสวนจากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเจ็ดมาร่วมทำการเก็บข้อมูลพบว่ามียาบ้าทั้งหมดห้ากระสอบรวม 20 ห่อทั้งสิ้นรวมแล้ว 1,000,000 เม็ด นายศักดา (นามสมมติ) ให้การว่าตัวเองได้รับจ้างขนยาบ้าครั้งนี้เป็นจำนวนเงิน 100,000 บาทโดยให้ไปรับยาบ้ามาจากอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายเพื่อให้นำไปสู่ในพื้นที่ภาคใต้แต่เมื่อขับรถมาถึงบริเวณดังกล่าวได้พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจสะกดรอยตามจึงได้พยายามหลบหนีแต่ไปไม่รอดเมื่อถูกโดรน สามารถจับภาพไว้ได้และมีตำรวจเข้ามาควบคุมตัวดังกล่าว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีการสอบสวนและสืบสวนเพื่อขยายผลหาต้นตอของแหล่งยาเสพติดและปลายทางที่จะนำไปส่งเพื่อที่จะได้มีการติดตามตัวผู้ค้ารายใหญ่ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นขบวนการที่มีชื่ออยู่ทางภาคเหนือเชื่อมโยงกับเขตพื้นที่ภาคใต้ต่อไป ภาพ-ข่าว ปนิทัศน์ -ปณิดา -เปมิกา มามีสุข จ.นครปฐม
♬ เสียงต้นฉบับ – TONGJUDKADHAD NEWS – TONGJUDKADHAD NEWS
ภาพ-ข่าว ปนิทัศน์ -ปณิดา -เปมิกา มามีสุข จ.นครปฐม