ผู้สื่อข่าวรายงานที่บริเวณเต้นท์พักชั่วคราวผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่ริมถนน หมู่ที่ 4 ตำบลนรสิงห์ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง จากการสอบถาม นางสาวสุวิมล สุริยวงค์ อายุ 33 ปี เล่าให้ฟังว่า ช่วงนี้ครอบครัวต้องออกมาพักอยู่ที่เต้นท์ผู้ประสบภัยริมถนน จำนวน 7 คน และต้องเดินลุยน้ำเข้าออกบ้านไปดูบ้านและข้าวของ ซึ่งช่วงนี้น้ำเน่าเสียบริเวณดังกล่าว เกิดเน่าเสียเป็นสีดำขุน ส่งกลิ่นเหม็นมาก แถมยังมียุงและแมลงวันชุกชุมมาก และต้องผวากับรถยนต์และจักรยานยต์ที่ขับเร็ว หวั่นเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งอากาศที่เย็นลง ทำให้ความเป็นอยู่ยิ่งลำบากขึ้นไปอีก ทางด้าน นาง สำอาง ช่อดอกรัก อายุ 63 ปี กล่าวว่า สำหรับเงินเยียวยาที่ทางรัฐบาลจะให้คิดว่าไม่คุ้ม เนื่องจากข้าวของที่เสียหายจากน้ำท่วมมีมูลค่าสูงกว่า แต่ก็เห็นว่าเป็นการดีที่ชาวบ้านบางรายที่ถูกน้ำท่วมขัง จนไม่สามารถมีรายได้มาจุนเจือครอบครัว ได้มีรายได้พอยังชีพในช่วงที่ถูกน้ำท่วม



ซึ่งช่วงนี้สถานการณ์น้ำในพื้นที่ หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 5 ตำบลนรสิงห์ อำเภอป่าโมก จำนวนกว่า 100 ครัวเรือน น้ำเริ่มลดลง แต่ชาวบ้านในพื้นที่จำนวนมาก กำลังประสบความเดือดร้อน อย่างหนักจากกลิ่นและน้ำเน่าเสีย ที่มีกลิ่นเหม็นรุนแรง รวมทั้งแมลงวันและยุงชุกชุม ส่วนผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่อพยบมาอาที่เต้นท์พักชั่วคราวริมถนน นอกจากต้องทนกับกลิ่นเหม็นและแมลงแล้ว ยังต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยจากการจราจรรถที่รถใช้เส้นทาง ที่ขับด้วยความเร็ว ยังคงเสี่ยงต่อเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากมีประชาชน เด็ก และสุนัขอาศัยอยู่ริมถนน ระวังคนในจุดพักอาศัยริมถนน เพราะมีทั้งเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยง
กนกศักดิ์ แสงตระการ / อ่างทอง