ที่บ้านภูมิซรอล ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ห่างจากแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เพียงประมาณ 12 กิโลเมตร บรรยากาศในพื้นที่ยังคงเต็มไปด้วยความวิตกกังวล หลังสถานการณ์ตามแนวชายแดนกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง ภายหลังจากช่วงก่อนหน้านี้เริ่มคลี่คลายลง ทำให้ชาวบ้านจำนวนมากต้องเร่งตากข้าวให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตไว้ขายสร้างรายได้ก่อนที่สถานการณ์จะรุนแรงขึ้น โดยชาวบ้านหลายครอบครัวต่างต้องเลือกระหว่าง “อยู่เร่งตากข้าว” กับ “เตรียมอพยพหนีภัย” เพราะหากเกิดเหตุปะทะขึ้นอีกครั้ง พวกเขาอาจไม่มีโอกาสกลับมาเก็บข้าวที่ตากไว้ได้ ขณะเดียวกัน ยังหวั่นว่าฝนอาจตกลงมาในช่วงนี้ ซึ่งจะทำให้ข้าวชื้นและขายไม่ได้ราคา
นายสมร กรงล้อม อายุ 68 ปี ชาวบ้านภูมิซรอล หนึ่งในผู้ที่กำลังตากข้าวกลางลาน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้ากังวลว่า ตอนนี้ต้องรีบตากข้าวให้แห้ง เพราะหากฝนตกลงมา ข้าวจะชื้นและเสียหายได้ง่าย ที่สำคัญคือกังวลมากกับสถานการณ์ชายแดน เนื่องจากไม่รู้ว่าจะเกิดการปะทะขึ้นเมื่อใด ทุกวันนี้ต้องอยู่แบบระแวงตลอดเวลา กรีดยางก็ไม่ได้ จะทำนาก็กลัวเสียงปืน มันเหนื่อยใจ อยากให้มันจบ ๆ กันไป ถ้าคุยกันไม่ได้ ก็ขอให้ภาครัฐกับกองทัพหาทางแก้ไขให้ชัดเจน จะได้ไม่ต้องอยู่กับความกลัวแบบนี้อีก
ขณะเดียวกัน นายวีระยุทธ์ ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ชาวบ้านในทุกหมู่บ้านตามแนวชายแดนอยู่ในภาวะพร้อมเสมอ ทั้งการจัดทำแผนอพยพ การเตรียมสิ่งของจำเป็น และการวางระบบประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและทหาร โดยมีชุดชรบ. (ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน) คอยดูแลพื้นที่และจัดทำบัญชีรายชื่อกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ เด็ก และผู้พิการ เพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างปลอดภัยหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น พวกเราชาวบ้านชายแดนอยู่ตรงนี้มานาน รู้ว่าหลุมหลบภัยอยู่ตรงไหน ใครอยู่บ้านไหน ต้องช่วยใครก่อน ตอนนี้ทุกคนเตรียมพร้อมเต็มที่ ขอให้คนไทยทั่วประเทศไม่ต้องกังวล แต่สิ่งที่อยากเห็นที่สุดคือรัฐบาลกับกองทัพต้องหาทางยุติปัญหาชายแดนให้ได้จริง ๆ เพราะมันยืดเยื้อมานานเกินไปแล้ว
กำนันตำบลเสาธงชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ชาวบ้านกลัวไม่ใช่เสียงปืนหรือการสู้รบ แต่คือความไม่จบสิ้นของปัญหานี้ มันทำให้วิถีชีวิตของคนชายแดนต้องหยุดชะงักอยู่เรื่อย ๆ พวกเราพร้อมร่วมมือกับทางราชการ หากมีคำสั่งให้อพยพเข้าสู่ศูนย์พักพิง ก็จะทำตามทันที เพราะเราเข้าใจดีว่านี่คือความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยของทุกคน ชาวบ้านเสาธงชัยและพื้นที่ใกล้เคียงส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่กับเสียงปืนและความตึงเครียดมาเกือบทั้งชีวิต จึงไม่หวั่นเรื่องการสู้รบ แต่สิ่งที่ทุกคนกลัวคือ “มันไม่ยอมจบเสียที” และไม่รู้ว่าจะต้องอยู่กับความไม่แน่นอนนี้อีกนานเท่าใด “ถ้ารัฐบาลจะเอาจริงในการแก้ปัญหาชายแดน เราก็พร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่าง ขอเพียงให้เกิดสันติภาพอย่างแท้จริง เพราะสันติภาพจะเกิดไม่ได้ ถ้ายังมีระเบิดและความไม่สงบอยู่แบบนี้
@chaijexu ศรีสะเกษ ทั้งฝนทั้งสงคราม ชาวบ้านชายแดนเร่งตากข้าวกลางสถานการณ์ตึงเครียด กำนันตำบลกระสุนตก เผย เตรียมพร้อมอพยพได้ทุกเวลา ที่บ้านภูมิซรอล ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ห่างจากแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เพียงประมาณ 12 กิโลเมตร บรรยากาศในพื้นที่ยังคงเต็มไปด้วยความวิตกกังวล หลังสถานการณ์ตามแนวชายแดนกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง ภายหลังจากช่วงก่อนหน้านี้เริ่มคลี่คลายลง ทำให้ชาวบ้านจำนวนมากต้องเร่งตากข้าวให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตไว้ขายสร้างรายได้ก่อนที่สถานการณ์จะรุนแรงขึ้น โดยชาวบ้านหลายครอบครัวต่างต้องเลือกระหว่าง “อยู่เร่งตากข้าว” กับ “เตรียมอพยพหนีภัย” เพราะหากเกิดเหตุปะทะขึ้นอีกครั้ง พวกเขาอาจไม่มีโอกาสกลับมาเก็บข้าวที่ตากไว้ได้ ขณะเดียวกัน ยังหวั่นว่าฝนอาจตกลงมาในช่วงนี้ ซึ่งจะทำให้ข้าวชื้นและขายไม่ได้ราคา นายสมร กรงล้อม อายุ 68 ปี ชาวบ้านภูมิซรอล หนึ่งในผู้ที่กำลังตากข้าวกลางลาน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้ากังวลว่า ตอนนี้ต้องรีบตากข้าวให้แห้ง เพราะหากฝนตกลงมา ข้าวจะชื้นและเสียหายได้ง่าย ที่สำคัญคือกังวลมากกับสถานการณ์ชายแดน เนื่องจากไม่รู้ว่าจะเกิดการปะทะขึ้นเมื่อใด ทุกวันนี้ต้องอยู่แบบระแวงตลอดเวลา กรีดยางก็ไม่ได้ จะทำนาก็กลัวเสียงปืน มันเหนื่อยใจ อยากให้มันจบ ๆ กันไป ถ้าคุยกันไม่ได้ ก็ขอให้ภาครัฐกับกองทัพหาทางแก้ไขให้ชัดเจน จะได้ไม่ต้องอยู่กับความกลัวแบบนี้อีก ขณะเดียวกัน นายวีระยุทธ์ ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ชาวบ้านในทุกหมู่บ้านตามแนวชายแดนอยู่ในภาวะพร้อมเสมอ ทั้งการจัดทำแผนอพยพ การเตรียมสิ่งของจำเป็น และการวางระบบประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและทหาร โดยมีชุดชรบ. (ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน) คอยดูแลพื้นที่และจัดทำบัญชีรายชื่อกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ เด็ก และผู้พิการ เพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างปลอดภัยหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น พวกเราชาวบ้านชายแดนอยู่ตรงนี้มานาน รู้ว่าหลุมหลบภัยอยู่ตรงไหน ใครอยู่บ้านไหน ต้องช่วยใครก่อน ตอนนี้ทุกคนเตรียมพร้อมเต็มที่ ขอให้คนไทยทั่วประเทศไม่ต้องกังวล แต่สิ่งที่อยากเห็นที่สุดคือรัฐบาลกับกองทัพต้องหาทางยุติปัญหาชายแดนให้ได้จริง ๆ เพราะมันยืดเยื้อมานานเกินไปแล้ว กำนันตำบลเสาธงชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ชาวบ้านกลัวไม่ใช่เสียงปืนหรือการสู้รบ แต่คือความไม่จบสิ้นของปัญหานี้ มันทำให้วิถีชีวิตของคนชายแดนต้องหยุดชะงักอยู่เรื่อย ๆ พวกเราพร้อมร่วมมือกับทางราชการ หากมีคำสั่งให้อพยพเข้าสู่ศูนย์พักพิง ก็จะทำตามทันที เพราะเราเข้าใจดีว่านี่คือความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยของทุกคน ชาวบ้านเสาธงชัยและพื้นที่ใกล้เคียงส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่กับเสียงปืนและความตึงเครียดมาเกือบทั้งชีวิต จึงไม่หวั่นเรื่องการสู้รบ แต่สิ่งที่ทุกคนกลัวคือ “มันไม่ยอมจบเสียที” และไม่รู้ว่าจะต้องอยู่กับความไม่แน่นอนนี้อีกนานเท่าใด “ถ้ารัฐบาลจะเอาจริงในการแก้ปัญหาชายแดน เราก็พร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่าง ขอเพียงให้เกิดสันติภาพอย่างแท้จริง เพราะสันติภาพจะเกิดไม่ได้ ถ้ายังมีระเบิดและความไม่สงบอยู่แบบนี้ จิรภัทร หมายสุข ศรีสะเกษ
♬ เสียงต้นฉบับ – TONGJUDKADHAD NEWS – TONGJUDKADHAD NEWS
จิรภัทร หมายสุข ศรีสะเกษ