ที่โรงเรียนบ้านภูมิซรอลวิทยา ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากแนวชายแดนไทย–กัมพูชาเพียง 12 กิโลเมตร และเป็นหนึ่งในพื้นที่เสี่ยงใกล้จุดปะทะทางทหาร ได้เปิดทำการเรียนการสอนตามปกติ แม้ขณะนี้สถานการณ์ตามแนวชายแดนจะยังคงตึงเครียดและอยู่ในภาวะเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

โรงเรียนแห่งนี้เคยได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ยิงปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชา บริเวณปราสาทพระวิหาร เมื่อปี 2554 โดยขณะนั้นมีกระสุนปืนใหญ่จากฝั่งกัมพูชาตกใส่หลังคาอาคารเรียนจนได้รับความเสียหายบางส่วน เหตุการณ์ดังกล่าวได้กลายเป็นบทเรียนสำคัญให้กับครู นักเรียน และชาวบ้านในพื้นที่ ที่ต้องเรียนรู้วิธีปฏิบัติตนเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ล่าสุดในวันนี้ บรรยากาศภายในโรงเรียนบ้านภูมิซรอลวิทยาเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย เด็กนักเรียนจำนวนมากแต่งเครื่องแบบเรียบร้อย เดินทางมาเรียนหนังสือตามปกติ ท่ามกลางการดูแลของคณะครูและผู้บริหารโรงเรียน โดยไม่มีการประกาศหยุดเรียนแต่อย่างใด


นายทศพร คำปลิว ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านภูมิซรอลวิทยา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า โรงเรียนได้เปิดทำการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา และจนถึงขณะนี้ก็ยังคงเปิดเรียนตามปกติ นักเรียนและครูต่างปฏิบัติงานและเรียนหนังสือตามตารางเดิม โรงเรียนของเราอยู่ในพื้นที่ใกล้แนวชายแดนก็จริง แต่เราไม่ตื่นตระหนก เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาได้มีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุและการอพยพอยู่เสมอ เราทำงานร่วมกับทหาร อำเภอ และหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อให้มั่นใจว่า หากมีเหตุปะทะเกิดขึ้นจริง จะสามารถอพยพนักเรียนออกจากพื้นที่ได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็วที่สุด

ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวต่อว่า ปัจจุบันสภาพจิตใจของคณะครูและนักเรียนยังคงดีอยู่ ทุกคนเข้าใจสถานการณ์และไม่ตื่นตระหนก หากไม่มีสัญญาณเตือนหรือเสียงปืนใหญ่ดังขึ้น โรงเรียนก็จะยังคงเปิดเรียนตามปกติ แต่ในขณะเดียวกันก็มีการเตรียมความพร้อมตลอดเวลา เรามีการจัดเตรียมหลุมหลบภัยและบังเกอร์จำนวน 18 แห่งไว้ทั่วบริเวณโรงเรียน เพื่อให้นักเรียนสามารถหลบภัยได้ทันหากเกิดเหตุฉุกเฉิน นอกจากนี้ นักเรียนยังได้รับการฝึกอบรมเรื่องการเอาตัวรอดและการอพยพอยู่เป็นประจำ ทุกคนรู้ดีว่าหากเกิดเหตุจะต้องไปที่ใด และทำอย่างไรให้ปลอดภัย
ภาพ-ข่าว จิรภัทร หมายสุข ศรีสะเกษ