ผู้สื่อข่าวรายงานจาก บ้านเลขที่ 101 หมู่ 2 บ้านภูมิซรอล ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ว่า หลังจากสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชาเริ่มกลับมามีความตึงเครียดอีกครั้ง ชาวบ้านในพื้นที่ต่างใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวง โดยเฉพาะผู้ที่เคยได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะในอดีต หนึ่งในนั้นคือนาง สอน จำพันธุ์ อายุ 74 ปี ชาวบ้านภูมิซรอล ซึ่งบ้านของเธอเคยถูกยิงด้วย กระสุนปืน BM-21 ของกัมพูชา จนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ในช่วงเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาเมื่อกลางปีที่ผ่านมา


นางสอนเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า บ้านของตนพังยับเยินจนไม่เหลือชิ้นดี ต้องอพยพหนีภัยไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวในอำเภอเบญจลักษ์อยู่นานหลายเดือน โดยไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว วันที่เห็นบ้านตัวเองพังครั้งแรก น้ำตาไหลพราก รับไม่ได้กับภาพที่เห็นเลย เหมือนชีวิตหายไปทั้งชีวิต ต่อมาหน่วยงานราชการในพื้นที่ได้เข้ามาช่วยเหลือ สร้างบ้านหลังใหม่ให้จนแล้วเสร็จ และเพิ่งย้ายกลับมาอยู่อาศัยได้เพียงสองเดือนที่ผ่านมา หลังสถานการณ์ชายแดนเริ่มคลี่คลายลง อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดบาดเจ็บสาหัสขาขาดเป็นรายที่ 7 ในพื้นที่ชายแดน และมีแนวโน้มสถานการณ์จะปะทะกันอีกระลอก ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่กลับมาหวาดกลัวอีกครั้ง



นางสอนกล่าวด้วยว่า อยากฝากถึงรัฐบาลและหน่วยงานความมั่นคงให้ ทำอะไรให้เด็ดขาด จะรบก็ให้รบให้จบ จะคุยก็ต้องให้มันชัดเจน เพราะตอนนี้ประชาชนอย่างพวกเราอยู่กันด้วยความกลัว” พร้อมระบุว่า เขมร มันเชื่อใจไม่ได้ เราใจดีเกินไป เขายิงเราก่อน แต่เรากลับยังใจเย็นกับเขา โดยตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แม้จะได้กลับมาอยู่บ้านใหม่ แต่ก็ไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข เพราะยังคงหวาดระแวงกับเสียงปืน เสียงระเบิด ที่อาจกลับมาเมื่อไรก็ได้ ตอนนี้อยู่ก็เหมือนอยู่ไปวัน ๆ หลับตาก็ไม่ค่อยลง กลัวเสียงปืนจะดังขึ้นอีก
จิรภัทร หมายสุข ศรีสะเกษ