จากสถานการณ์ พายุ “แคเมกี (KAMMURI)” ” ที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยหลายแห่ง พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ ผู้บัญชาการกองทัพภาคที่ 1 (มทภ.1) ได้สั่งการ ให้ทุกหน่วยทหารในพื้นที่รับผิดชอบเร่งเตรียมการและสนับสนุนการบรรเทาผลกระทบจากพายุ ซึ่งเริ่มส่งอิทธิพลทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและลำน้ำสาขาเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.อ่างทอง ซึ่งหลายชุมชนเริ่มได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำเอ่อท่วมบ้านเรือนและเส้นทางสัญจร โดยได้มีการเพิ่มกำลังสนับสนุนอุปกรณ์ช่วยเหลือ เครื่องจักรกล และชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว เข้าให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชน จุดที่ได้รับผลกระทบในจุดต่างๆ โดยเน้นหลัก เป็นมาตรการเร่งด่วน 3 ข้อ

ป้องกันก่อนเกิดผลกระทบ – หน่วยต้องเข้าถึงพื้นที่เสี่ยงก่อนพายุเคลื่อนถึง ช่วยเหลือประชาชนเป็นอันดับแรก – อพยพ–ขนย้าย–เฝ้าระวังตลอด 24 ชม. One Team ช่วยน้ำท่วม – บูรณาการ ทหาร–ปกครอง–อปท.–ตำรวจ–จิตอาสา โดยในพื้นที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา ศบภ.ม.4 พัน.11 รอ. ได้จัดกำลังร่วมหลายหน่วยงาน ยกเปิดแผ่นปูนแนว 650 เมตร และติดตั้งพนังกั้นน้ำสแตนเลส พร้อมคลุมพลาสติกกันน้ำ บริเวณวัดพนัญเชิงวรวิหาร ต.คลองสวนพลู และ ที่อำเภอเสนา เจ้าหน้าที่ทหารสังกัด ม.พัน.27 ดำเนินการสนับสนุนเทศบาลเมืองเสนา กรอกกระสอบทราย 600 กระสอบ เสริมแนวคันกั้นน้ำและช่วยขนของขึ้นที่สูงใน ชุมชนหมู่ 7 ต.หัวเวียง ที่อำเภอบางบาล และศบภ.ม.5 พัน.24 รอ. ลงพื้นที่ ต.บ้านกุ่ม สนับสนุนการอพยพและขนย้ายทรัพย์สิน หลังน้ำระบายจากเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มเป็น 2,700 ลบ.ม./วินาที โดยผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ที่อำเภอบางไทร เจ้าหน้าที่ทหารสังกัด พัน.ซบร.กรม สน.12 สนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนและขนย้ายของขึ้นที่สูง ณ วัดไทรโสภณ ต.บ้านเกาะ ที่อำเภอบางปะอิน ม.4 พัน.5 รอ. ระดมกำลังเสริมคันกันน้ำและกรอกทรายบริเวณ พระราชวังบางปะอิน ต.บ้านเลน หลังระดับน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทุกจุดผลการปฏิบัติ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ทั้งนี้ พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ บัญชาการกองทัพภาคที่ 1 (มทภ.1) ได้สั่งการให้มีการจับตาและติดตามข่าวสารรวมถึงประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ภาคกลาง ที่อาจจะได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน อย่างสูงสุดต่อไป